บราซิลสั่งหยุดก่อสร้างโรงงาน EV ของ BYD หลังพบสภาพการทำงานคล้ายทาส

ทางการบราซิลได้สั่งหยุดการก่อสร้างโรงงานของบริษัท BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีนในรัฐบาเฮีย (Bahia) เนื่องจากพบสภาพการทำงานและการอยู่อาศัยของแรงงานที่ไม่เหมาะสมจนถูกมองว่าใกล้เคียงกับ "ทาส" โดยแรงงานกว่า 160 คนในโครงการก่อสร้างโรงงานนี้ถูกบังคับให้อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ โดยมีการเก็บพาสปอร์ตและเงินเดือนของพวกเขาไว้จนไม่สามารถออกจากงานได้ สำนักงานอัยการการทำงาน (MPT) ของบราซิลได้เผยแพร่แถลงการณ์ว่าแรงงานเหล่านี้ถูกบังคับให้อาศัยในห้องพักที่ไม่เหมาะสม เช่น การนอนบนเตียงที่ไม่มีที่นอน และการใช้ห้องน้ำร่วมกันหลายคน โดยหนึ่งห้องน้ำต้องใช้ร่วมกันระหว่าง 31 คน ซึ่งสร้างความยากลำบากในการทำกิจวัตรประจำวัน

การตรวจสอบของ MPT ยังพบว่าสภาพที่พักเหล่านี้แสดงถึงความย่ำแย่และการใช้ชีวิตในสภาพที่เสื่อมโทรม โดยระบุว่าเป็นสภาพที่เข้าข่าย "การทาส" ตามกฎหมายของบราซิล ซึ่งรวมถึงการบังคับให้ทำงานที่ทำลายศักดิ์ศรีของมนุษย์ รวมถึงการยึดเงินเดือนและการมีหนี้สินที่เกินกว่าความจำเป็น การบังคับให้ทำงานในสภาพที่ไม่เหมาะสมและการหักเงินค่าปรับในกรณีที่แรงงานต้องการยุติสัญญาการทำงานนั้นถือเป็นการใช้แรงงานบังคับ

BYD ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้ตัดความสัมพันธ์กับบริษัทที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้และย้ำว่า บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายของบราซิลอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทได้ย้ายแรงงานที่ได้รับผลกระทบไปยังโรงแรมที่พักที่มีสภาพดีกว่า ทั้งยังได้ทำการตรวจสอบสภาพการทำงานและการอยู่อาศัยของแรงงานทั้งหมดในโครงการ และขอให้บริษัทก่อสร้างปรับปรุงสภาพที่พักและสภาพการทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

โรงงานที่กำลังก่อสร้างในรัฐบาเฮียมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของ BYD นอกทวีปเอเชีย โดยโรงงานดังกล่าวจะเป็นการขยายฐานการผลิตของบริษัทในตลาดบราซิล ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับ BYD ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศนี้ โดยเมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้ประกาศลงทุน 3 พันล้านเรอัล (ประมาณ 484.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสร้างโรงงานในบราซิล

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบราซิลนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสำหรับการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนอย่างมากมาย แต่บริษัท BYD ก็ยังคงเผชิญกับการต่อต้านจากบางประเทศที่มองว่าการสนับสนุนนี้อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่ได้มีการกำหนดภาษีเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งอาจทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอนาคต