คาดการณ์การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกและในประเทศไทยในปี 2025
วันที่โพสต์: 7 พฤศจิกายน 2567 08:57:48 การดู 32 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั่วโลกคาดว่าจะมีมากกว่า 85 ล้านคันในปี 2025
การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำระดับโลก ได้เผยแพร่รายงานคาดการณ์การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่าภายในสิ้นปี 2025 ทั่วโลกจะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานอยู่มากถึง 85 ล้านคัน ซึ่งจะรวมถึงรถยนต์, รถบัส, รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ในหลายประเทศ ขณะเดียวกันประเทศไทยก็จะมีการเติบโตของรถ EV โดยคาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศถึง 78,000 คัน
การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในโลกและไทย ตามรายงานของการ์ทเนอร์ รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ทั่วโลกจะมีจำนวนเกือบ 62 ล้านคันในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปี 2024 ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คาดว่าจะมีการเติบโตในอัตราช้ากว่า โดยในปี 2025 จะมีจำนวนประมาณ 23 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28
ในประเทศไทย คาดว่าจะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดมากกว่า 77,800 คันภายในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 จากปี 2024 โดยรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) คาดว่าจะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 74 หรือประมาณ 57,900 คัน
จีนยังคงเป็นผู้นำในตลาด EV จากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ จีนจะเป็นตลาดหลักของรถยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2025 คาดว่าจีนจะมีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่มากถึง 49 ล้านคัน ขณะที่ในยุโรปคาดว่าจะมีประมาณ 20.6 ล้านคัน และในอเมริกาเหนือประมาณ 10.4 ล้านคัน ซึ่งตลาดในจีนจะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
การรีไซเคิลแบตเตอรี่ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนวัสดุสำคัญ แม้ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การ์ทเนอร์ก็ยังมองว่าการรีไซเคิลแบตเตอรี่และการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้งานจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนวัสดุในการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถ EV โดยคาดว่าภายในปี 2030 การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถทำได้ถึงร้อยละ 95
ทิศทางตลาดในอนาคต โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์กล่าวว่า "ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนด้วยการเติบโตในจีนและยุโรป โดยในปีหน้าคาดว่าจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากจีนถึงร้อยละ 58 และจากยุโรปร้อยละ 24 ซึ่งจะทำให้ทั้งสองภูมิภาคนี้มีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกถึงร้อยละ 82 โดยคาดว่าความพยายามในการรีไซเคิลแบตเตอรี่และการใช้วัสดุรีไซเคิลจะทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง และช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งาน"
การคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 จะมีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กว่า 85 ล้านคันทั่วโลก โดยจีนจะเป็นตลาดหลัก ขณะที่ประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยรถ EV เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นการตอบรับต่อความต้องการที่สูงขึ้นในระดับโลก.