วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น. – กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกประกาศเตือนภัยฉบับล่าสุด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติจากฝนตกหนักต่อเนื่อง อิทธิพลจากพายุโซนร้อน "วิภา" ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมภาคเหนือของไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 22–23 กรกฎาคมนี้ โดยพบว่ามีหลายพื้นที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม รวมถึงคลื่นลมแรงในทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออก

จากการรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาและเครือข่ายเตือนภัยพิบัติ พบว่ามีปริมาณฝนสะสมสูงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา, ลำปาง, ลำพูน, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, ตาก, พิษณุโลก, พิจิตร, สุโขทัย และกำแพงเพชร โดยบางพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วจากฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อาทิ เขตบางระกำ จ.พิษณุโลก และเขตชุมแสง จ.นครสวรรค์

ในขณะที่จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ในเส้นทางของกลุ่มฝนหนักจากพายุ “วิภา” ได้ประกาศแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า โดยเทศบาลเมืองน่านได้ตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดวอร์รูมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด บริเวณอำเภอเวียงสา, ท่าวังผา, เชียงกลาง, สองแคว, ทุ่งช้าง และบ่อเกลือ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อทั้งน้ำป่าและดินสไลด์

ขณะเดียวกัน พื้นที่ภาคอีสานตอนบน เช่น หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม และเลย ก็อยู่ในข่ายเฝ้าระวังจากมวลฝนที่เคลื่อนลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยอาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเฉียบพลันในหลายจุด รวมถึงจังหวัดชายฝั่งทะเลภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ที่กำลังเผชิญกับคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส มีรายงานว่าคลื่นในทะเลสูงเกิน 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งอย่างเด็ดขาด และประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งควรระวังน้ำทะเลหนุนหรือคลื่นซัดเข้าฝั่งด้วย

นอกจากนี้ ยังมีจุดเสี่ยงต่อดินถล่มในพื้นที่ภูเขาสูงและลาดชัน โดยเฉพาะใน จ.เชียงราย อ.เวียงแก่น และ อ.เทิง รวมถึงพื้นที่ห่างไกลใน จ.น่าน อ.ทุ่งช้าง และ อ.บ่อเกลือ ซึ่งทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางคมนาคมและจัดเตรียมอุปกรณ์กู้ภัยฉุกเฉินไว้ให้พร้อมใช้งาน

ทั้งนี้ ปภ. ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า และจัดเตรียมเครื่องจักรกลด้านการป้องกันภัยไว้ประจำการ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ชุมชนเมือง และพื้นที่ชายฝั่ง เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ประชาชนสามารถติดตามประกาศแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการได้ทาง

  • เว็บไซต์ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ https://ndwc.disaster.go.th

  • เพจ Facebook ของเทศบาลในพื้นที่

  • แอปพลิเคชัน Thai Disaster Alert

  • หรือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่พบเห็นจุดเสี่ยง จุดน้ำท่วม จุดดินถล่ม หรือโครงสร้างชำรุดในพื้นที่ สามารถถ่ายภาพพร้อมแจ้งเหตุไปยังเพจของหน่วยงานในพื้นที่ หรือโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินที่เบอร์ 199


สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด – ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโปรดติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างมีสติ ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของท่านคือสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้