Samsung Galaxy S25 กับสเปคที่เป็นที่นิยม คุ้มค่ากับการอัปเกรดหรือไม่?

เมื่อถึงช่วงปลายปี 2024 ความสนใจในวงการสมาร์ทโฟนเริ่มเปลี่ยนไปจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เหลือของปีนี้ ไปยังซีรีส์ใหม่ที่จะมาถึงในปี 2025 โดยเฉพาะการคาดการณ์เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S25 series ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่เปิดตัวในปีหน้า โดยบางแหล่งข่าวเผยว่า Samsung อาจเปิดตัว Galaxy S25 ในงาน Unpacked วันที่ 5 มกราคม 2025 ซึ่งเป็นวันที่คาดว่าจะมีการเผยโฉมของสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้อย่างเป็นทางการ ถึงแม้จะมีแหล่งข่าวอื่นระบุว่า งานเปิดตัวอาจจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 มกราคม 2025

ซัมซุงมักจะได้รับความสนใจในทุกครั้งที่มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ โดยเฉพาะในรุ่น Galaxy S ที่มักจะเป็นเรือธงของบริษัทในทุกปี ดังนั้นไม่แปลกที่แฟนๆ และผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมากต่างตั้งตารอการเปิดตัวและการปรับปรุงใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นใน Samsung Galaxy S25 series ซึ่งจะมีทั้ง Galaxy S25, Galaxy S25+, และ Galaxy S25 Ultra

การอัปเกรดที่คาดหวังใน Galaxy S25 Series

จากข้อมูลที่หลุดออกมาเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S25 series, หลายคนคงคาดหวังว่า Samsung จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในด้านดีไซน์, กล้อง, ชิปเซ็ต, และฟีเจอร์พิเศษต่างๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข้อมูลจากแหล่งข่าว TechManiacs เกี่ยวกับสเปคของ Galaxy S25 series สิ่งที่เราได้เห็นคือการปรับปรุงที่ไม่มากนัก ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนรู้สึกว่า "มันเหมือนเดิม" กับรุ่นก่อนๆ มากกว่าการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่หลายคนคาดหวัง

ราคาและโปรโมชันที่ยังคงเดิม

สำหรับราคาของ Galaxy S25 Ultra แหล่งข่าวรายงานว่า Samsung จะไม่ปรับขึ้นราคาจากรุ่นก่อน โดยจะคงราคาคงเดิมจาก Galaxy S24 series และในช่วงการพรีออเดอร์ จะมีโปรโมชั่น "อัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี" เหมือนกับที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ Samsung ใช้เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนของตนในช่วงเริ่มต้น

การอัปเกรดกล้องที่จำกัด

ในส่วนของกล้อง Samsung Galaxy S25 และ S25+ จะได้รับการปรับปรุงจากการใช้งาน ISP (Image Signal Processor) ในชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพของภาพถ่ายให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม S25 Ultra จะได้รับการอัปเกรดกล้องมุมกว้าง (ultra wide) เป็น 50MP จากเดิมที่มีความละเอียดเพียง 12MP ส่วนกล้องหลักและกล้องเซลฟี่จะยังคงเหมือนเดิม

การปรับปรุงประสิทธิภาพด้วย RAM และชิปเซ็ต

จากการรายงาน Galaxy S25 และ S25+ จะได้รับการอัปเกรด RAM จากเดิมที่มี 8GB เป็น 12GB ซึ่งเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานในหลายๆ ด้าน รวมถึงการทำงานพร้อมกันหลายแอป (multitasking) และการเล่นเกม นอกจากนี้ Samsung Galaxy S25 series จะใช้ Snapdragon 8 Elite ในทุกรุ่นทั่วโลก เนื่องจาก Samsung พบปัญหาการผลิต Exynos 2500 ชิปเซ็ตของตัวเองที่ไม่สามารถผลิตได้ทันตามความต้องการ

ดีไซน์ที่ค่อนข้างเหมือนเดิม

ในส่วนของดีไซน์ Galaxy S25 series จะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนมากนัก โดยมีขนาดหน้าจอและความละเอียดที่เหมือนเดิม แต่รุ่น S25 Ultra จะมีการปรับปรุงในเรื่องของขอบจอที่บางลง และจะมี หน้าจอ Dynamic AMOLED ที่ให้สีสันสดใสและการแสดงผลที่ลื่นไหล ในขณะที่รุ่น S25 และ S25+ จะยังคงหน้าจอที่มีคุณภาพสูงเช่นเดิม

แบตเตอรี่และความเร็วในการชาร์จ

แบตเตอรี่ของ Galaxy S25 ทั้งสามรุ่นจะมีขนาดที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยรุ่น S25 Ultra และ S25+ จะรองรับการชาร์จเร็วที่ 45W ส่วนรุ่น S25 จะรองรับการชาร์จที่ 25W ตามที่ได้เห็นในรุ่นก่อนๆ ความจุแบตเตอรี่ของทั้งสามรุ่นจะยังคงเหมือนเดิม แต่การประหยัดพลังงานของ Snapdragon 8 Elite อาจช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

ฟีเจอร์ AI และซอฟต์แวร์ใหม่

Samsung จะเน้นการนำฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ มาใช้ใน Galaxy S25 series ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยในการปรับปรุงภาพถ่าย และการทำงานของโทรศัพท์ในหลายๆ ด้าน แม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะเป็นฟีเจอร์ที่ได้เห็นแล้วใน One UI 7 ที่พัฒนาอย่างช้า แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและฉลาดขึ้น

Samsung Galaxy S25 series ดูเหมือนว่าจะเป็นการอัปเกรดที่ค่อนข้างคงที่และไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากรุ่นก่อนๆ ในปี 2024 โดยจะเน้นการปรับปรุงในบางด้าน เช่น กล้อง, RAM, และฟีเจอร์ AI ที่เป็นการปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ Samsung แต่สำหรับใครที่หวังว่า Galaxy S25 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จากรุ่นก่อนๆ อาจจะต้องผิดหวังเล็กน้อยกับการอัปเกรดที่ไม่ค่อยโดดเด่นในปีนี้

อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นแฟนของ Samsung Galaxy S series และกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ยังคงคุณสมบัติที่เชื่อถือได้ Galaxy S25 series ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ