กาญจนบุรี – วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ได้สนธิกำลังกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการตรวจสกัดการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีจากแนวชายแดน หลังได้รับรายงานข่าวจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีกลุ่มขบวนการค้าเถื่อนเตรียมลำเลียงบุหรี่ต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ชั้นในของจังหวัด

ปฏิบัติการครั้งนี้นำโดย พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับ พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจฯ พร้อมกำลังจาก กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135, สภ.ทองผาภูมิ และฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ เข้าตั้งจุดตรวจบริเวณสามแยกทองผาภูมิ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางลำเลียงสินค้าเถื่อนจากแนวชายแดน อ.สังขละบุรี

ไม่นานหลังตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่พบรถขนส่งพัสดุเอกชนจำนวน 4 คัน วิ่งตามกันมาตามเส้นทางที่ได้รับแจ้งเบาะแส จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ผลการตรวจค้นพบกล่องพัสดุหลายใบที่บรรจุบุหรี่ต่างประเทศไม่มีแสตมป์ภาษีแอบซุกซ่อนไว้รวมกับพัสดุทั่วไป เมื่อรวมของกลางทั้งหมดพบว่ามี จำนวน 5,440 ซอง ซึ่งหากประเมินราคาตามอัตราเปรียบเทียบปรับของกรมสรรพสามิต จะคิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐสูงถึงกว่า 900,000 บาท

จากการสอบถามพนักงานขับรถของบริษัทขนส่ง ทราบว่าได้รับกล่องพัสดุทั้งหมดจากจุดรับพัสดุในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี และไม่ทราบว่าภายในกล่องมีของผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเพียงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในการนำพัสดุไปยังจุดคัดแยกใน อ.เมืองกาญจนบุรี

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมประสานพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ รับเรื่องดำเนินคดีในความผิดฐานนำเข้าหรือครอบครองสินค้าหนีภาษี ตามกฎหมายศุลกากรและพระราชบัญญัติสรรพสามิต นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อสาวไปยังผู้อยู่เบื้องหลังและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าอาจมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติ ก่อนใช้บริการขนส่งเอกชนเพื่ออำพรางการตรวจสอบ

พล.ต.อัษฎาวุธ ยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชนในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย