บีโอไออนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลขนาดใหญ่จาก TikTok และ SIAM.AI มูลค่ารวมกว่า 130,000 ล้านบาท

บอร์ดคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ประกาศการอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญในโครงการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลขนาดใหญ่ของประเทศไทย โดยมีสองโครงการหลักที่ได้รับการอนุมัติ ได้แก่ โครงการลงทุนจาก TikTok ซึ่งจะเข้ามาติดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าลงทุนรวมกว่า 126,790 ล้านบาท และอีกโครงการคือการลงทุนขยายบริการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท SIAM.AI ที่จะมีมูลค่าลงทุน 3,250 ล้านบาท

TikTok ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ByteDance จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูง โดยมีแผนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ โดยจะกระจายศูนย์การประมวลผลไปยังพื้นที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบทางบวกต่อระบบดิจิทัลของประเทศ ด้วยการพัฒนาความสามารถในการจัดการข้อมูลที่มีมูลค่ามหาศาล (Big Data) รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพในการรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อย่าง AI

ส่วนบริษัท SIAM.AI ผู้ให้บริการโซลูชันด้านปัญญาประดิษฐ์และระบบคลาวด์ ก็จะลงทุนเพิ่มเติมในบริการ AI Cloud Service ในประเทศไทย โดยบริษัทจะขยายการให้บริการในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและปทุมธานี ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดบริการ AI ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยที่ SIAM.AI เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่ได้รับการเลือกให้เป็น NVIDIA Cloud Partner (NCP) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญในการยกระดับเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ของไทย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า การลงทุนจากทั้งสองโครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางดิจิทัล (Digital Hub) ของภูมิภาคอาเซียน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผลข้อมูล การจัดการ Big Data และการพัฒนาเทคโนโลยี AI ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมดิจิทัลในปัจจุบัน

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น Data Center และ Cloud Service ที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวมมากกว่า 240,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทชั้นนำจากหลายประเทศทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย เข้ามาลงทุนในจำนวนทั้งหมด 16 โครงการ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค

ทั้งนี้ การลงทุนของ TikTok และ SIAM.AI ยังจะช่วยสร้างงาน สร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ รวมถึงส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลและสตาร์ทอัพในประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง

สำหรับการลงทุนในโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ของ TikTok แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ แต่ทางบริษัทระบุว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในอนาคต โดยจะมีการนำเสนอแผนการลงทุนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงการสร้างผลประโยชน์ในระยะยาวให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย