TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ByteDance จากประเทศจีน ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งในสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่องตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงคือความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ และความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนอาจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ แม้ว่าทางบริษัทจะออกมายืนยันว่าข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้รับการจัดเก็บและดำเนินการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เคร่งครัด แต่ความสงสัยจากทางการสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่

ในช่วงต้นปี 2024 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายที่มุ่งควบคุมแอปพลิเคชันที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต่อมาได้รับการลงนามจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้กลายเป็นกฎหมายบังคับใช้ ทางเลือกที่ ByteDance ต้องเผชิญคือการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทอเมริกัน หรือเผชิญกับการถูกแบนออกจากตลาดสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยสนับสนุนการแบน TikTok กลับออกมาคัดค้านการบังคับขายกิจการในช่วงปลายปี 2024 ทำให้สถานการณ์เริ่มซับซ้อนขึ้น

เมื่อต้นปี 2025 TikTok ได้ปิดตัวลงชั่วคราวในสหรัฐฯ ก่อนที่จะกลับมาให้บริการอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง โดยมีการประกาศว่าการกลับมาให้บริการเป็นผลมาจากการดำเนินการของทรัมป์ ซึ่งต่อมาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่ขยายระยะเวลาการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของ TikTok ออกไปอีก 75 วัน เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับโครงสร้างความเป็นเจ้าของใหม่ที่อาจมีการแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง ByteDance และนักลงทุนสหรัฐฯ

ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ TikTok ได้มีนักลงทุนและกลุ่มธุรกิจหลายกลุ่มให้ความสนใจในการเข้าซื้อกิจการในสหรัฐฯ หนึ่งในนั้นคือ "The People’s Bid for TikTok" ซึ่งนำโดย Frank McCourt อดีตเจ้าของทีมเบสบอล Los Angeles Dodgers โดยกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยี เช่น Alexis Ohanian ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit และ Tim Berners-Lee ผู้คิดค้นเวิลด์ไวด์เว็บ อีกกลุ่มหนึ่งคือ "American Investor Consortium" ที่นำโดย Jesse Tinsley ซีอีโอของ Employer.com ซึ่งมีการยื่นข้อเสนอเป็นเงินสดมูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ โดยมีนักลงทุนอย่าง David Baszucki ซีอีโอของ Roblox และ Nathan McCauley ซีอีโอของ Anchorage Digital เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เคยแสดงความสนใจในการซื้อ TikTok มาก่อน เช่น Oracle, Walmart, Microsoft และ Rumble

แม้ว่าความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนจะมีอยู่มาก แต่ข้อตกลงซื้อขายกิจการยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด และยังไม่มีความแน่นอนว่า ByteDance จะยอมขายกิจการในสหรัฐฯ หรือหาทางออกอื่น เช่น การปรับโครงสร้างธุรกิจให้เป็นไปตามกฎระเบียบของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม TikTok ยังคงยืนยันว่าบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเคร่งครัด และไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ กังวล แต่ด้วยแรงกดดันจากทั้งภาครัฐและภาคการเมือง อนาคตของแพลตฟอร์มนี้ในสหรัฐฯ ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ที่มา : techcrunch