รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนครั้งใหญ่ เสียชีวิตแล้ว 12 ราย

โปลตาวา - รัสเซียยิงขีปนาวุธและโดรนหลายสิบลำถล่มยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) ขณะที่มอสโกอ้างว่ากองกำลังของตนกำลังรุกคืบเข้าสู่เมืองสำคัญอย่างโทเรตสก์

เมืองโทเรตสก์ในแคว้นโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครนตกเป็นเป้าหมายของเครมลินมาเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากการเข้ายึดเมืองนี้จะทำให้รัสเซียสามารถตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงสำคัญของยูเครนได้

การสู้รบยังไม่แสดงสัญญาณชะลอตัว

แม้สงครามใกล้เข้าสู่ปีที่สาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้เกิดการหยุดยิงภายใน "24 ชั่วโมง" หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม

หน่วยงานฉุกเฉินของยูเครนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย รวมถึงเด็กหนึ่งคน จากเหตุขีปนาวุธถล่มอาคารที่พักอาศัยในเมืองโปลตาวา ทางตอนกลางของประเทศ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เผยแพร่ภาพขณะค้นหาผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพังที่ยังมีควันคุกรุ่น

สถานการณ์ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น

สงครามที่ยืดเยื้อทำให้เกิดความไม่พอใจในประเด็นการเกณฑ์ทหารของยูเครน โดยในวันเดียวกัน เกิดเหตุชายติดอาวุธปืนล่าสัตว์ยิงเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารเสียชีวิตก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับทหารเกณฑ์ แต่ทั้งสองถูกจับกุมในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุระเบิดที่ศูนย์คัดเลือกทหารในเมืองริฟเน ทางตะวันตกของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ระบุสาเหตุของการระเบิด

รัสเซียโจมตีหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายอย่างหนัก

นอกจากโปลตาวา รัสเซียยังโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครน โดยในเมืองคาร์คิฟ โดรนของรัสเซียที่ถูกยิงตกลงมาใส่ย่านที่พักอาศัย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย

ขณะที่แคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่เขตชายแดน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย นอกจากนี้ การโจมตีในแคว้นเคอร์ซอนทางตอนใต้ ยังคร่าชีวิตประชาชนอีก 2 ราย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า การโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมามุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและก๊าซที่สนับสนุนอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครน โดยกองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 42 ลูกและส่งโดรน 123 ลำเข้าสู่การโจมตี รวมถึงโดรนลวงเป้าด้วย

เซเลนสกีเรียกร้องพันธมิตรเพิ่มมาตรการกดดันรัสเซีย

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประณามการโจมตีของรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรเพิ่มความช่วยเหลือด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศ

"ทุกระบบป้องกันภัยทางอากาศ ทุกขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานช่วยรักษาชีวิตผู้คนได้" เซเลนสกีกล่าว พร้อมเสริมว่าความเสียหายเกิดขึ้นใน 6 แคว้น ได้แก่ คาร์คิฟ คเมลนิตสกี เคียฟ โอเดสซา ซูมี และซาปอริซเซีย

แนวโน้มการเจรจาสันติภาพยังไม่แน่นอน

สงครามครั้งนี้กำลังจะเข้าสู่ปีที่สาม โดยทั้งทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียแสดงท่าทีพร้อมสำหรับการเจรจาสันติภาพ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดเวลาและเงื่อนไขที่ชัดเจน

ทรัมป์เคยวิจารณ์วอชิงตันที่ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการช่วยเหลือยูเครน และขู่จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหากปูตินไม่ตกลงยุติสงคราม ขณะที่ปูตินเคยกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า พร้อมเจรจากับยูเครน แต่ไม่ใช่กับเซเลนสกี ซึ่งเขามองว่า "ไม่มีความชอบธรรม" ในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ

ที่มา : channelnewsasia