ฮุน เซนออกโรง ปม “แวนด้า” ถูกถอดพรีเซนเตอร์โค้ก ชาวกัมพูชาเดือดแห่แบนสินค้า ส่อบานปลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ–การเมือง
วันที่โพสต์: 18 สิงหาคม 2568 15:46:02 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 โลกโซเชียลกัมพูชาปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเพจทางการของ Coca-Cola Cambodia ถูกถล่มอย่างหนักจากประชาชนจำนวนมหาศาล สาเหตุเกิดจากการที่บริษัทถอดชื่อและภาพของ “แวนด้า มาน” หรือ VannDa แร็ปเปอร์ชื่อดังระดับชาติ ออกจากการเป็นพรีเซนเตอร์โดยไม่เหลือร่องรอยใด ๆ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกโยงไปถึงการที่แวนด้าเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยใช้ถ้อยคำที่ถูกมองว่าอาจสร้างความเข้าใจว่าฝ่ายไทยเป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน และนั่นเองที่ทำให้เกิดการตีความว่าบริษัทระดับโลกซึ่งเข้มงวดเรื่องภาพลักษณ์ไม่อาจเสี่ยงกับถ้อยคำทางการเมืองที่อาจบั่นทอนชื่อเสียงในตลาดใดตลาดหนึ่งได้ การปลดพรีเซนเตอร์ครั้งนี้กลายเป็นเชื้อไฟให้ประชาชนกัมพูชาจำนวนมากรวมตัวกันบนโลกออนไลน์ ประกาศพร้อมใจกันบอยคอตเครื่องดื่มโค้กเพื่อตอบโต้แบรนด์ที่พวกเขามองว่าไม่เคารพศิลปินและคนกัมพูชา กระแสแบนลุกลามอย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายหวั่นว่าจะลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ทั้งในเชิงสังคมและเศรษฐกิจ
ทว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้องออกมาใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวเขียนข้อความยาวในช่วงหลังเที่ยงคืนเพื่อปรามประชาชนไม่ให้เดินตามกระแสอารมณ์ เขาชี้ให้เห็นว่า แม้โค้กจะเป็นสินค้าของสหรัฐอเมริกา แต่ความจริงแล้วโค้กที่ขายในกัมพูชาผลิตขึ้นภายในประเทศ มีโรงงาน มีแรงงานชาวกัมพูชาหลายพันคนที่พึ่งพารายได้จากบริษัท และยังมีภาษีที่รัฐได้รับโดยตรง หากประชาชนร่วมใจกันแบนจนบริษัทแม่ตัดสินใจถอนการลงทุนออกไป ผลกระทบจะตกอยู่กับกัมพูชาเอง ทั้งในแง่การจ้างงาน รายได้ของครอบครัว รวมไปถึงเศรษฐกิจโดยรวม ฮุน เซนย้ำว่า การแบนเช่นนี้คือการทำลายทรัพยากรของตัวเอง และยังอาจกลายเป็นเครื่องมือที่ศัตรูต่างชาติใช้เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของกัมพูชา เพราะตั้งแต่แรกศัตรูก็ต้องการให้เศรษฐกิจกัมพูชาอ่อนแออยู่แล้ว ทั้งการขู่ตัดพลังงาน การสกัดอินเทอร์เน็ต หรือการกดดันทางการค้า และถ้าประชาชนเลือกจะบอยคอตเสียเอง ก็เท่ากับว่ากำลังทำในสิ่งที่ศัตรูต้องการโดยไม่รู้ตัว
เขายังกล่าวเปรียบเทียบว่าหากโค้กที่ขายในกัมพูชาผลิตจากไทย ประชาชนอาจเลือกไม่อุดหนุนได้ แต่ในกรณีนี้ โรงงานตั้งอยู่ในกัมพูชาเอง การปฏิเสธสินค้าจึงไม่ต่างจากการหันหลังให้กับแรงงานกัมพูชาที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง และยังเท่ากับปฏิเสธรายได้ของรัฐที่ได้จากธุรกิจนี้โดยตรง ฮุน เซนยังฝากข้อความไปถึงแวนด้า โดยย้ำว่าแม้การถูกถอดจากตำแหน่งพรีเซนเตอร์จะเป็นเรื่องน่าเสียใจ แต่ขอให้ศิลปินหนุ่มอดทนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และถือเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณแห่งการเสียสละเพื่อส่วนรวม
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของกัมพูชาทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เมื่อการตัดสินใจเชิงธุรกิจของบริษัทระดับโลกสามารถจุดชนวนให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวจนผู้นำการเมืองต้องรีบออกมาปรามด้วยตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินคนดังกับแบรนด์สินค้า จึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการตลาดอีกต่อไป แต่กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่โยงไปถึงความมั่นคงของประเทศ และความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัมพูชากับมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา