24 มิถุนายน 2568 – ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาเพิ่มระดับอย่างมีนัยสำคัญ หลัง สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากประเทศไทยทั้งหมดอย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องเขตแดนและการทหารที่ยังไม่ได้ข้อยุติ

รัฐบาลกัมพูชาออกคำสั่งให้บริษัทจัดหาน้ำมันภายในประเทศเร่งหาทางนำเข้าเชื้อเพลิงจากประเทศอื่นทดแทนการนำเข้าจากไทย พร้อมทั้งเร่งสำรองคลังน้ำมันเพื่อเลี่ยงภาวะขาดแคลน

ไทยเสียตลาดใหญ่ มูลค่ากว่า 4.7 หมื่นล้านบาทต่อปี

ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานไทยระบุว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชาปริมาณกว่า 2,288 ล้านลิตร หรือเฉลี่ยวันละ 6.25 ล้านลิตร คิดเป็น 21.1% ของการส่งออกน้ำมันทั้งหมด ของประเทศ และมีมูลค่าสูงถึง 47,988 ล้านบาท ถือเป็น ตลาดส่งออกใหญ่อันดับสอง รองจากสิงคโปร์

น้ำมันที่ส่งออกส่วนใหญ่ประกอบด้วย

  • น้ำมันเบนซิน 1,002 ล้านลิตร
  • น้ำมันดีเซล 1,136 ล้านลิตร
  • น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และก๊าซแอลพีจี อีกหลายล้านลิตร/กิโลกรัม

บริษัทไทยหลายแห่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออก อาทิ OR (บริษัทลูกของ ปตท.), PTT, Thai Oil, IRPC, และ Susco รวมถึงผู้ค้าแอลพีจีรายใหญ่เช่น บางจาก และยูนิคแก๊ส

OR เร่งรับมือ – ปิดแผนส่งออก เรียกพนักงานไทยกลับ

แหล่งข่าวจากกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า การประกาศของกัมพูชาทำให้ OR และบริษัทในเครือต้องเร่งแผนรับมือทันที โดยล่าสุดได้ เรียกพนักงานไทยทั้งหมดกลับประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. เพื่อความปลอดภัย ส่วนสถานีบริการน้ำมันในกัมพูชา ยังเปิดดำเนินการตามปกติ โดยใช้สต๊อกเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่

ทั้งนี้ OR มีสถานีบริการน้ำมันในกัมพูชา 190 แห่ง และร้านคาเฟ่อเมซอน 258 แห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ เมืองเสียมเรียบ และถนนสายหลัก

ก่อนหน้านี้ OR วางแผนขยายการลงทุนในกัมพูชา มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อสร้างคลังก๊าซ LPG และคลังน้ำมันขนาดใหญ่ รองรับนโยบาย “กัมพูชาเป็นบ้านหลังที่สอง” ของบริษัท แต่สถานการณ์ล่าสุดอาจทำให้แผนดังกล่าวต้องชะลอลง

นายกฯ แพทองธาร เร่งใช้การทูต – ชี้กระทบประชาชนกัมพูชาเอง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไทยเตรียมสนับสนุนธุรกิจไทยในกัมพูชาทางการทูตอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงหรือกระทบต่อความปลอดภัยของคนไทยในพื้นที่

“การที่กัมพูชาระงับนำเข้าน้ำมันจากไทย แน่นอนว่าส่งผลต่อตลาดภายในของเขาเอง เพราะจะทำให้ราคาน้ำมันภายในสูงขึ้น หากไม่มีทางเลือกที่เพียงพอ…สุดท้ายแล้วจะกระทบต่อประชาชนกัมพูชาและชาวไทยที่อยู่ที่นั่นด้วย” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เศรษฐกิจพลังงานเอเชียผันผวน – จับตาเงินเฟ้อกัมพูชา

นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่า การระงับนำเข้าน้ำมันจากไทยครั้งนี้ อาจเป็น กลยุทธ์ทางการเมือง ท่ามกลางข้อพิพาทชายแดนระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ดี ผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านพลังงานและค่าครองชีพในกัมพูชาอาจรุนแรงขึ้น หากไม่มีแหล่งนำเข้าที่สามารถทดแทนไทยได้อย่างรวดเร็ว

สถานการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับความวิตกจากวิกฤตตะวันออกกลางที่อาจปิด “ช่องแคบฮอร์มุซ” ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านพลังงานสำคัญของโลก อาจซ้ำเติมความผันผวนในตลาดเชื้อเพลิงเอเชียในอีกหลายเดือนข้างหน้า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • “พิชัย” จับตาสงครามตะวันออกกลาง กระทบราคาน้ำมันโลก
  • ศิริกัญญา เตือนรัฐบาลเตรียมมาตรการพยุงราคาพลังงาน
  • ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เสี่ยงเขย่าตลาดพลังงานเอเชีย

สถานการณ์ยังอยู่ระหว่างจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งจากภาครัฐ นักธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ชายแดน.