ตลาดรถยนต์ในปี 2567 เผชิญกับความท้าทายอย่างมาก โดยมียอดขายเพียง 5.7 แสนคัน ซึ่งลดลงถึง 26% เมื่อเทียบกับปี 2566 ถือเป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์นี้สร้างความวิตกกังวลในหมู่ผู้ประกอบการ แต่ก็ยังมีความหวังว่าปัจจัยลบหลายประการจะคลี่คลายและช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดในปี 2568

ในปีนี้หลายฝ่ายคาดหวังว่าตลาดจะฟื้นตัวจากปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ที่กำลังจัดขึ้น ซึ่งมีการเข้าร่วมจาก 41 แบรนด์รถยนต์ เป็นปีที่มีแบรนด์เข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ งานนี้ถูกคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะยอดจองที่อาจบ่งชี้ถึงทิศทางของตลาดในปีนี้

การสอบถามจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานพบว่า แนวโน้มของตลาดในปีนี้น่าจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อย โดยมีการประเมินว่ายอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 6 แสนคัน แม้ว่าจะมีบางส่วนที่มองว่าตลาดอาจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่างยังคงมีผลกระทบ เช่น เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าถึงแม้ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2568 ตลาดจะติดลบประมาณ 10% แต่ก็ถือว่าเป็นการติดลบที่ลดลงจากปีที่ผ่านมา และคาดว่าในครึ่งปีหลัง ตลาดจะขยายตัวได้เล็กน้อยหากสถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะหากมีมาตรการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีที่อาจช่วยกระตุ้นยอดขายรถปิกอัพ

ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพที่ยังไม่ดีขึ้น แต่ก็เชื่อว่าในอนาคตตลาดจะปรับตัวดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

ณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์จีลี (Geely) กล่าวว่าปีนี้จะยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ โดยคาดการณ์ยอดขายประมาณ 5.8-6 แสนคัน หากทำได้จะถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีในสถานการณ์ที่มีปัจจัยลบหลายอย่าง

แม้ว่าผู้ประกอบการหลายรายจะคาดหวังการฟื้นตัว แต่ก็ยังคงมีปัจจัยลบสำคัญ เช่น สงครามราคา ที่ทำให้ผู้บริโภคลังเลในการตัดสินใจซื้อรถ เพราะคาดหวังจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่าอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการขาดความมั่นใจในการซื้อรถจากผู้บริโภค แม้ว่าจะมีกำลังซื้ออยู่ก็ตาม

งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2568 ที่กำลังจัดขึ้นจนถึงวันที่ 6 เมษายน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นตลาด แม้เศรษฐกิจโดยรวมยังคงไม่ดีนัก แต่การมีแบรนด์รถยนต์จำนวนมากเข้าร่วมงาน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของแบรนด์รถจากจีน ที่มีการเข้าร่วมเพิ่ม 14 แบรนด์ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากงานเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้วที่มียอดจองรวม 5.3 หมื่นคัน

โดยรวมแล้ว ตลาดรถยนต์ในปี 2568 คาดว่าจะยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยลบหลายประการ แต่ผู้ประกอบการยังคงหวังว่าในครึ่งปีหลังตลาดจะฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ โดยคาดว่าจะมียอดขายอยู่ในช่วง 5.8-6 แสนคัน