06 มีนาคม 2568 สภาพอากาศในประเทศไทยยังคงมีความแปรปรวนต่อเนื่อง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกในบางแห่ง และมีรายงานฟ้าผ่าที่สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม ขณะที่ภาคเหนือและภาคกลางต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัดในบางช่วงของวัน

จากรายงานล่าสุด หลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนอย่างรุนแรง ในจังหวัดขอนแก่น บ้านเรือนหลายสิบหลังถูกลมพัดหลังคาปลิว รวมถึงต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อให้การสัญจรกลับมาเป็นปกติ ขณะที่ในจังหวัดนครราชสีมา มีรายงานไฟฟ้าดับในหลายจุดเนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นจากแรงลม

นอกจากนี้ เกษตรกรในจังหวัดเชียงรายและแพร่ต้องเผชิญกับความเสียหายของสวนลำไยและทุเรียนซึ่งได้รับผลกระทบจากลูกเห็บตกหนัก โดยเฉพาะทุเรียนที่อยู่ในช่วงออกดอกอาจทำให้ผลผลิตลดลงในฤดูกาลนี้

ขณะเดียวกัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แม้จะไม่มีพายุรุนแรงเท่าภาคอื่น แต่ก็พบว่ามีลมกระโชกแรงและฝนตกประปรายในบางพื้นที่ ส่งผลให้มีต้นไม้ล้มและป้ายโฆษณาหลุดจากโครงสร้าง ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการจอดรถหรือเดินอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่

นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า การเกิดพายุฤดูร้อนครั้งนี้เป็นผลมาจากมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาจากประเทศจีนและปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยในช่วงนี้ ทำให้เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิและความกดอากาศ ซึ่งนำไปสู่สภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นจุดแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกัน ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดเข้าสู่ภาคกลางและภาคตะวันออกได้นำความชื้นเข้ามาสะสม ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองกระจายตัวในบางพื้นที่

แม้ว่าพายุฤดูร้อนจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันได้บ้าง แต่ในบางพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ ยังคงมีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็นที่อากาศนิ่ง การจราจรหนาแน่นทำให้ฝุ่นสะสมมากขึ้น

กรมควบคุมมลพิษแนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นหากต้องออกนอกบ้าน

พยากรณ์อากาศรายภาค (06:00 น. วันนี้ - 06:00 น. วันพรุ่งนี้)
  • ภาคเหนือ อากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ลมแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
  • ภาคกลาง: อากาศร้อนในช่วงกลางวัน ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส
  • ภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
  • ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
ข้อควรระวังและคำแนะนำประชาชน
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะในพื้นที่โล่งแจ้ง
  • ตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของหลังคาบ้าน สิ่งปลูกสร้าง ป้ายโฆษณา และต้นไม้รอบบ้าน
  • เกษตรกรควรเตรียมรับมือกับพายุที่อาจทำให้พืชผลเสียหาย โดยการคลุมหรือย้ายผลผลิตไปยังที่ปลอดภัย
  • ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อฟ้าผ่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือกลางแจ้ง และอยู่ให้ห่างจากเสาไฟฟ้า
  • ประชาชนในเขตเมืองใหญ่ควรติดตามรายงานคุณภาพอากาศ และใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองเมื่อต้องออกจากบ้าน

กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนหากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ