Realme ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเปิดตัว GT7 Pro Racing Edition ในประเทศจีน ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นพิเศษที่ถูกปรับลดสเปกบางส่วนจากรุ่น GT7 Pro แต่ยังคงมาพร้อมประสิทธิภาพระดับสูง

สมรรถนะที่ไม่ลดลง: Snapdragon 8 Elite

แม้ว่า GT7 Pro Racing Edition จะถูกปรับลดบางคุณสมบัติ แต่ก็ยังคงมาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน พร้อมกับประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมที่ไม่แพ้ใคร ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ไม่แพ้รุ่นหลักเลยทีเดียว

กล้องที่ลดลง: คาดว่า GT7 Pro Racing Edition จะตัด กล้อง Telephoto ออกไปจากรุ่นปกติ ทำให้เหลือกล้องทั้งหมด 2 ตัว โดยจะยังคงมีกล้องหลักและกล้อง Ultra-wide อยู่ การปรับลดกล้อง Telephoto นี้อาจทำให้ราคาโดยรวมของรุ่นนี้ต่ำลง แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมจากกล้องหลักที่มีคุณภาพสูง

ตัวเลือกสีที่มีเอกลักษณ์: Star Trace Titanium และ Neptune Discovery Edition

Realme GT7 Pro Racing Edition จะมีตัวเลือกสี 2 สี ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ได้แก่

  • Star Trace Titanium: สีเทาเข้มที่มาพร้อมกับการเคลือบเงาให้ดูหรูหราและมีความทนทานสูง
  • Neptune Discovery Edition: สีฟ้าอ่อนที่มีพื้นผิวลวดลายพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดาวเนปจูน โดยมีลวดลายหมุนวนที่เลียนแบบพายุและสภาพอากาศที่มีความเฉพาะตัวของดาวเคราะห์ดวงสุดท้ายในระบบสุริยะ

การออกแบบในทั้งสองสีนี้ถือเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการเลือกซื้อ และเน้นความสวยงามและเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความทันสมัยและนวัตกรรมของ Realme

สเปกอื่น ๆ ที่คาดว่าจะมี

ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยสเปกทั้งหมด แต่จากข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ คาดว่า GT7 Pro Racing Edition จะมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ความละเอียดสูง ที่ให้สีสันคมชัดและสดใส รองรับการแสดงผลที่ลื่นไหล และรองรับ การชาร์จเร็ว 100W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

ในส่วนของ แบตเตอรี่ คาดว่าจะมาพร้อมกับ แบตเตอรี่ 5000 mAh ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งวัน นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ Realme UI 5.0 บนพื้นฐานของ Android 15 ก็จะเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและมีฟีเจอร์ครบครัน

ราคาคาดการณ์และการเปิดตัวระดับโลก

ราคาของ GT7 Pro Racing Edition คาดว่าจะเริ่มต้นที่ราคาที่ถูกกว่ารุ่นปกติ โดยอาจมีราคาตั้งแต่ประมาณ 9,000 - 12,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกซื้อ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน ตลาดต่างประเทศ ในช่วงหลังจากเปิดตัวในจีน และคาดว่าอาจมีการจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดียและยุโรปในภายหลัง

สเปกทั้งหมดรวมถึงราคาจะถูกเปิดเผยในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ประเทศจีน