เครื่องบันทึกข้อมูลสองตัวของเครื่องบินโบอิ้งที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในเกาหลีใต้หยุดบันทึกข้อมูลก่อนเกิดเหตุประมาณ 4 นาที

โซล, 11 ม.ค. (รอยเตอร์) – กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เครื่องบันทึกข้อมูลสองตัว (black boxes) ของเครื่องบินโบอิ้งที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในเกาหลีใต้ได้หยุดบันทึกข้อมูลก่อนเกิดอุบัติเหตุประมาณ 4 นาที

การสอบสวนจากเกาหลีใต้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เครื่องบันทึกข้อมูลการบินและเสียงในห้องนักบิน (cockpit voice recorder) เป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 179 คน

เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่นักบินของเครื่องบินจากสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) รายงานเกี่ยวกับการชนกับนก (bird strike) ประมาณ 4 นาที

ทางการกล่าวว่า การสอบสวนเกี่ยวกับการหยุดการบันทึกข้อมูลของเครื่องบันทึกทั้งสองจะได้รับการวิเคราะห์เพิ่มเติม โดยได้ส่งข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงไปยังห้องปฏิบัติการของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) หลังจากที่พบข้อมูลที่หายไป

เครื่องบันทึกข้อมูล (black boxes) จะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างนักบินในห้องนักบิน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของระบบต่าง ๆ ของเครื่องบินในระหว่างการบิน

การสอบสวนเหตุการณ์

เครื่องบินเจจูแอร์ เที่ยวบิน 7C2216 ซึ่งออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองมวนในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ลงจอดแบบท้อง (belly-landed) และเสียหลักจากทางวิ่งในสนามบินที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2024 ก่อนที่จะเกิดไฟลุกลามหลังจากชนกับเนินดิน มีผู้รอดชีวิตเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งเป็นสมาชิกลูกเรือที่นั่งอยู่ในส่วนท้ายของเครื่องบิน

ก่อนที่นักบินจะประกาศเหตุฉุกเฉิน (Mayday) เพียง 2 นาที ทางการควบคุมการบินได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ "การพบเห็นนก"

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

ซิม ไจ-ดง อดีตนักสืบสอบสวนอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การค้นพบข้อมูลที่หายไปในช่วงสุดท้ายของเที่ยวบินที่สำคัญนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการตัดการจ่ายไฟทั้งหมด รวมถึงไฟสำรอง ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก

กระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีอยู่จะถูกใช้ในการสอบสวน และจะทำให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส พร้อมทั้งแชร์ข้อมูลกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต

บางส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิตได้กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมไม่ควรเป็นผู้รับผิดชอบในการนำการสอบสวน และควรมีผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ได้รับการแนะนำจากครอบครัวเข้ามาร่วมในการสอบสวน

การสอบสวนยังมุ่งเน้นไปที่เนินดินที่เครื่องบินชน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับระบบ "localiser" ที่ใช้ในการช่วยการลงจอดของเครื่องบิน รวมถึงเหตุผลที่ทำไมมันจึงสร้างจากวัสดุที่แข็งแรงและตั้งอยู่ใกล้กับปลายทางวิ่งของสนามบิน

ที่มา reuters