Meta ประกาศยกเลิกการใช้ Fact-Checking และเปิดตัว Community Notes เพื่อเพิ่มเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการควบคุมและการแสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram โดยการเปลี่ยนจากการใช้ ‘การตรวจสอบข้อเท็จจริง’ จากบุคคลที่สามมาเป็น ‘การใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน’ หรือ Community Notes ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ผู้ใช้งานมีอำนาจในการตัดสินใจและตรวจสอบข้อมูลได้มากขึ้น

เปลี่ยนจากการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามสู่ Community Notes

การตัดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มาร์คได้ระบุถึงปัญหาที่มาจากระบบการเซนเซอร์ที่มากเกินไป และข้อผิดพลาดที่เกิดจากการควบคุมที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ใช้งาน เขาจึงตัดสินใจยกเลิกการใช้โปรแกรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบุคคลที่สาม และนำแนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนมาใช้แทน

Community Notes เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้ร่วมกันตัดสินใจว่าโพสต์ใดควรได้รับการตรวจสอบหรือไม่ และสามารถเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างโปร่งใส โดยที่การควบคุมนี้จะไม่เพียงแต่เกิดจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่จะเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของชุมชนที่หลากหลาย

การยกเลิกข้อจำกัดในหลายหัวข้อ

โปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-checking program) ที่เคยใช้งานใน Facebook และ Instagram จะถูกยกเลิก นอกจากนี้ การจำกัดบางหัวข้อ เช่น การย้ายถิ่นฐานและเพศ จะถูกยกเลิกออกไปเช่นกัน เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นมีความยืดหยุ่นและเสรีมากขึ้น ผู้ใช้จะมีสิทธิในการเลือกเห็นเนื้อหาทางการเมืองหรือเนื้อหาส่วนตัวตามความต้องการของตนเองในฟีดข่าว

โปร่งใสในการตัดสินใจและการปรับปรุงการควบคุม

เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตัดสินใจ Meta จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจที่เกี่ยวกับ Community Notes และจะมีผู้ตรวจสอบหลายคนในการประเมินเนื้อหาก่อนการลบ โดยยังมีการสนับสนุนระบบ AI ในการให้ Second Opinion เพื่อพิจารณาเนื้อหาที่ถูกรายงานอีกครั้ง

ผลกระทบและท้าทายจากนโยบายใหม่

การประกาศนี้ของ Meta มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้บางส่วนรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมมากขึ้นในฟีดของตน รวมถึงอาจเกิดปัญหาจากการตรวจสอบทางกฎระเบียบจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในขณะเดียวกัน Meta ก็ระบุว่านโยบายใหม่นี้มุ่งเน้นการลดข้อผิดพลาดและความซับซ้อนในการควบคุม ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการแสดงความคิดเห็นที่อิสระและโปร่งใส

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

การประกาศครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางของ Meta ที่ต้องการปรับปรุงและพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยมุ่งหวังว่าจะทำให้ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกจำกัดจากข้อบังคับที่มากเกินไป แม้ว่าในระยะยาวอาจต้องเผชิญกับการท้าทายจากผู้ควบคุมดูแลและกฎระเบียบต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้

คำถามที่เกิดขึ้น

Meta ต้องเผชิญกับคำถามสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ใช้จากเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือข่าวปลอมในยุคที่ข้อมูลสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความสมดุลระหว่างเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการคุ้มครองข้อมูลที่ผิดพลาด

การปรับนโยบายนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับการควบคุมในโลกออนไลน์ของ Meta และอาจเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบการดำเนินงานของบริษัทใหญ่แห่งนี้ในอนาคต