ยอดขายทะลุ 1 ล้านคัน! Toyota C-HR ยืนยันความสำเร็จในยุโรป
วันที่โพสต์: 26 ธันวาคม 2567 14:32:39 การดู 5 ครั้ง ผู้โพตส์ baikhao
Toyota C-HR เตรียมทะลุยอดขาย 1 ล้านคันในยุโรปภายในปี 2024
Toyota C-HR ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคาดว่าจะทำยอดขายทะลุ 1 ล้านคันในยุโรปภายในสิ้นปี 2024 ตอกย้ำถึงความสำเร็จและตำแหน่งรถยนต์ขายดีและเป็นสัญลักษณ์ไฮบริดของ Toyota ในทวีปยุโรป
ประวัติความสำเร็จของ Toyota C-HR
Toyota C-HR เจนเนอเรชันแรกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและไม่เหมือนใคร ทำให้ C-HR กลายเป็นรถเล็กรุ่นสำคัญที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจในสไตล์ใหม่ ด้วยบุคลิกขี้เล่น ขับสนุก และคุณภาพงานประกอบที่ยอดเยี่ยม Toyota C-HR เป็นที่รู้จักในกลุ่ม C-SUV ของยุโรปด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและเฉียบคม
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของรุ่นใหม่
รูปลักษณ์ของ C-HR ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อรถยนต์ตราสามห่วงในยุโรป ลูกค้าต่างตอบรับในเชิงบวก โดยกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่าสไตล์ของรถและการขับขี่ที่สนุกสนานเป็นเหตุผลหลักในการเลือกซื้อ ด้วยความสำเร็จจากเจเนอเรชันแรก Toyota C-HR เจนเนอเรชันที่สองได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่ล้ำสมัย
Toyota C-HR เจนเนอเรชันที่สองยังคงเน้นย้ำถึงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและเส้นสายที่เฉียบคม รวมถึงการออกแบบที่ซับซ้อน มีคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น ที่จับประตูแบบเรียบ ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร 64 สีแบบไดนามิก และหลังคากระจกพาโนรามิกไร้ม่านบังแดด ทำให้ประสบการณ์การใช้งานรถยนต์เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของ C-HR
Toyota C-HR รุ่นล่าสุดประกอบด้วยรุ่น PHEV หรือ Plug-in Hybrid 220 ที่สามารถวิ่งได้สูงสุด 66 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) และเมื่อใช้งานในเมืองจะมีระยะทางวิ่งเทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ประมาณ 100 กิโลเมตร C-HR PHEV 220 มีความยืดหยุ่นด้วยเทคโนโลยีไฮบริดของ Toyota ที่ทำให้รถเปลี่ยนเป็นโหมดไฮบริดโดยอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่หมด
แบตเตอรี่ PHEV ของ C-HR ผลิตในยุโรปที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Turkey (TMMT) ในเมือง Sakarya ซึ่งฉลองครบรอบ 30 ปีในปี 2024 นอกจากรุ่น Plug-in Hybrid 220 แล้ว C-HR ยังมีระบบส่งกำลังไฟฟ้าไฮบริด HEV อีก 3 ระบบที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันที่ 5 ล่าสุด
การออกแบบและความยั่งยืน
Toyota C-HR รุ่นใหม่ยังได้รับการพัฒนาจากโครงสร้าง Toyota New Generation Architecture (TNGA) ที่ปรับปรุงใหม่ให้มีความแข็งแกร่งและความต้านทานแรงบิดที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบอากาศพลศาสตร์ให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ 0.318 ทำให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น โดยมีพื้นที่ด้านหน้าที่ลดลงและรูปทรงของตัวรถที่ปรับแต่งอย่างละเอียด
นอกจากประสิทธิภาพที่เป็นผู้นำในระดับเดียวกันบนท้องถนนแล้ว Toyota C-HR รุ่นใหม่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลใหม่มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดน้ำหนักของรถและลดการปล่อย CO2 ในระหว่างการผลิต
อนาคตของ Toyota C-HR
ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า Toyota C-HR ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด C-SUV ของยุโรปและยังคงดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง มั่นใจได้ว่า Toyota C-HR จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Toyota และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของแบรนด์ในอนาคต
แท็ก: Toyota เทคโนโลยีไฮบริด รถยนต์ไฮบริด