เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธบริเวณชายแดนเลบานอนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วยจรวดที่ถูกยิงเข้ามา โดยในคืนวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา จรวดหลายลูกพุ่งเข้าถล่มพื้นที่ใกล้ชายแดน ส่งผลให้เกิดความเสียหายและทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงแรงงานชาวไทยที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถูกระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 1 คน

เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับทั้งชาวไทยและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างยิ่ง ซึ่งแรงงานไทยเหล่านี้ส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานในอิสราเอลเพื่อหารายได้และส่งกลับมายังครอบครัวในประเทศไทย การเสียชีวิตในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียบุคลากรที่ช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขา แต่ยังเป็นความสูญเสียในระดับประเทศอีกด้วย

จากเหตุการณ์นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยเธอได้รับรายงานจากนายมาริษ เสงียมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งระบุถึงแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้

"ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ไปยังครอบครัวของผู้สูญเสียครั้งนี้ด้วยค่ะ  I am deeply saddened to have received a report from FM Maris last night that four Thais were killed and one was injured as a result of rocket fired in northern Israel near the border with Lebanon yesterday. Our Embassy in Tel Aviv is contacting the families of the deceased, to whom I send my deepest condolences for their irreparable loss. และขอให้กำลังใจแก่ครอบครัวของแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบ" นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมทั้งแจ้งว่าขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยในเทลอาวีฟได้ดำเนินการติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่

รัฐบาลไทยยังได้ส่งคำแนะนำให้กับแรงงานไทยในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอิสราเอลเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด