เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แคธี โฮชูล (Kathy Hochul) ประกาศแผนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่แห่งใหม่ในรัฐนิวยอร์ก โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 กิกะวัตต์ เพื่อเสริมความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

“ถ้าเราตัดพลังงานนิวเคลียร์ออกจากสมการ เราก็ต้องเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น และนั่นไม่ใช่ทางเลือกของนิวยอร์ก” โฮชูลกล่าวในการแถลงข่าว

ภายใต้แผนนี้ หน่วยงานรัฐอย่าง New York Power Authority (NYPA) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้ารวมกว่า 20 แห่งทั่วรัฐ จะรับหน้าที่พัฒนาโครงการ โดยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังไม่มีการระบุพื้นที่หรือออกแบบโครงการชัดเจน แต่รัฐจะเป็นผู้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานหลัก และร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินการ พร้อมรับซื้อพลังงานที่ผลิตได้

ตามรายงานของ Wall Street Journal หนึ่งในตัวเลือกที่รัฐกำลังพิจารณาคือพื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ยังเปิดดำเนินการอยู่ในตอนเหนือของนิวยอร์ก ทั้งหมดเป็นของบริษัท Constellation Energy ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยี เช่น Microsoft และ Meta

Microsoft ลงทุนราว 1.8 พันล้านดอลลาร์ในโครงการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าที่ Three Mile Island รัฐเพนซิลเวเนีย ขณะที่ Meta ทำสัญญาซื้อสิทธิ์พลังงานสะอาดจากศูนย์ Clinton Clean Energy Center ในรัฐอิลลินอยส์ มูลค่ารวมหลายพันล้านดอลลาร์ และล่าสุด Amazon ก็ลงนามข้อตกลงซื้อพลังงานนิวเคลียร์เกือบ 2 กิกะวัตต์จากบริษัท Talen Energy

แม้จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของสหรัฐยังเผชิญอุปสรรคสำคัญ ทั้งในด้านงบประมาณและระยะเวลาก่อสร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาในสหรัฐมักใช้เวลานานกว่ากำหนดและงบประมาณบานปลายหลายพันล้านดอลลาร์

ผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมากจึงหันไปสู่แนวคิด “เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก” หรือ Small Modular Reactors (SMR) ที่เน้นการผลิตแบบสำเร็จรูปจากโรงงานเพื่อลดต้นทุนและเร่งเวลา แต่เทคโนโลยีนี้ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ในเชิงพาณิชย์จนกว่าจะมีการสร้างใช้งานจริง

โฮชูลย้ำว่า ความสำเร็จของโครงการขึ้นอยู่กับการปฏิรูประเบียบและขั้นตอนอนุญาตของรัฐบาลกลางซึ่งในอดีตใช้เวลาหลายปี “อุปสรรคอยู่ที่วอชิงตัน” เธอกล่าว

กระแสพลังงานนิวเคลียร์ได้รับความสนใจใหม่อีกครั้งจากภาคเทคโนโลยีและผู้พัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ต้องการแหล่งพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ และที่สำคัญยังเป็นประเด็นที่ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีจุดยืนร่วม ทำให้เกิดความหวังว่า “ยุคฟื้นฟูนิวเคลียร์” ของสหรัฐอาจเริ่มต้นขึ้นจากโครงการนี้

“ถ้าเราไม่ขยับตอนนี้ มันจะเลยผ่านเราไป” โฮชูลกล่าวทิ้งท้าย