ราคาน้ำมันขยับขึ้น จากความตึงเครียดในยูเครน-อิหร่าน ขณะโอเปกพลัสเดินหน้าเพิ่มการผลิต
วันที่โพสต์: 2 มิถุนายน 2568 09:26:50 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในยูเครนและอิหร่าน ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับส่งมอบเดือนสิงหาคมปรับขึ้น 2.1% แตะระดับ 64.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ขยับขึ้นมาใกล้ระดับ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ การตัดสินใจของโอเปกพลัสในการเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม สร้างแรงกดดันให้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวผันผวน โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า กลุ่มอาจพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การประกาศเพิ่มโควตาครั้งนี้ยังสอดคล้องกับแผนที่วางไว้ล่วงหน้าสำหรับเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน-รัสเซีย จุดชนวนตลาด
ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง เมื่อยูเครนเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ภายในรัสเซีย โดยใช้โดรนที่ถูกซ่อนไว้ในรถบรรทุกลอบเข้าโจมตีสนามบินในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงไซบีเรียตะวันออก โดยอ้างว่าสามารถทำลายเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดไปกว่า 40 ลำ
ขณะเดียวกัน รัสเซียก็เปิดฉากตอบโต้ด้วยการยิงโดรนและขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการที่ยาวนานที่สุดของรัสเซียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทำให้ตลาดน้ำมันเริ่มจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่ออุปทานพลังงานในภูมิภาคยุโรป
โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน จุดอ่อนไหวใหม่
นอกจากยูเครนแล้ว อิหร่านก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน เมื่อสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เปิดเผยว่า อิหร่านผลิตยูเรเนียมได้ในระดับที่เข้าใกล้เกณฑ์ที่ใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แม้จะยังต่ำกว่าขีดจำกัดอย่างเป็นทางการก็ตาม
รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกในหมู่นักลงทุน เนื่องจากความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอาจกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของประเทศ และส่งผลต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลางโดยรวม
แนวโน้มตลาดและการประชุมโอเปกพลัสรอบถัดไป
แม้ราคาน้ำมันจะดีดตัวในระยะสั้น แต่ภาพรวมตลอดปี 2568 ราคายังปรับลดลงประมาณ 15% โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงท่าทีของโอเปกพลัสที่เริ่มผ่อนคลายนโยบายลดกำลังการผลิตเดิม
แหล่งข่าวในโอเปกพลัสเผยว่า การตัดสินใจเพิ่มโควตาครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณถึงสมาชิกบางรายที่ผลิตเกินโควตา เช่น อิรักและคาซัคสถาน ขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างรัสเซีย แอลจีเรีย และโอมาน ต้องการให้ชะลอการเพิ่มการผลิตออกไป
โอเปกพลัสมีกำหนดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 6 กรกฎาคม เพื่อพิจารณาทิศทางกำลังการผลิตสำหรับเดือนสิงหาคม
ราคาน้ำมันล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายน (ตามเวลาในสิงคโปร์) พบว่า:
น้ำมันดิบเบรนท์ (ส.ค.) เพิ่มขึ้น 1.9% มาอยู่ที่ 63.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI (ก.ค.) เพิ่มขึ้น 2.1% อยู่ที่ 62.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
แท็ก: ราคาน้ำมัน น้ำมันดิบ