วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง เป็นจำนวน 10,028,861,880.83 บาท จากกรณีปล่อยให้เกิดการทุจริตในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ทั้งนี้เป็นการพิจารณากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางเดิมที่เคยเพิกถอนคำสั่งให้ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท

ศาลยังมีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์สินบางส่วนที่เกินจากมูลค่าความเสียหาย พร้อมให้คืนทรัพย์สิน 37 รายการที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสของนางสาวยิ่งลักษณ์ และให้แจ้งผลภายใน 60 วัน

ด้านทีมทนายของนางสาวยิ่งลักษณ์เตรียมยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่ามีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการจำหน่ายข้าวคงคลังหลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 รวม 18.9 ล้านตัน ซึ่งสามารถขายได้ทั้งหมด คิดเป็นรายได้ราว 250,000 ล้านบาท หากนำมาหักลบกับความเสียหาย อาจทำให้ไม่มีภาระต้องชดใช้

ในวันเดียวกัน นางสาวยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจ ระบุว่าการถูกตัดสินให้ชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท เป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต เพราะไม่ใช่จำเลยโดยตรงในคดีดังกล่าว และการดำเนินนโยบายช่วยเหลือชาวนาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พร้อมตั้งคำถามว่า "จากนี้ใครจะกล้าทำนโยบายเพื่อประชาชนอีก"

ขณะเดียวกัน กกต.มีการเรียกสมาชิกวุฒิสภา 24 คนเข้าให้ถ้อยคำในคดีเกี่ยวข้องกับการสรรหา โดยยืนยันยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงพรรคภูมิใจไทยในกรณีนี้ ส่วนด้านการค้าระหว่างประเทศ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พบปะเจ้าของค่ายมวยไทยในต่างแดน และเจรจากับห้างค้าปลีกระดับโลกเพื่อขยายตลาดอาหารไทยภายใต้โครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก”