เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แถลงข่าวผลการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดนจำนวนกว่า 210,300 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 33.07 ล้านบาท ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี การตรวจยึดครั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการเข้มงวดของรัฐบาลภายใต้นโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกันปราบปรามและป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยังคงเป็นสินค้าต้องห้ามในประเทศไทย

จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พบว่ามีการใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าผ่านแดน โดยกลุ่มผู้กระทำผิดสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และเครื่องจักรเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบโดยละเอียดกลับพบว่า ภายในบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก สินค้าทั้งหมดถูกส่งมาจากประเทศจีนและมีปลายทางอยู่ที่ประเทศเมียนมา

เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 6,000 ชิ้น มูลค่า 1.2 ล้านบาท น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000 ชิ้น มูลค่า 900,000 บาท หัวพ็อดบุหรี่ไฟฟ้าที่มีน้ำยาภายใน 190,100 ชิ้น มูลค่า 28.5 ล้านบาท และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบพร้อมน้ำยา 8,200 ชิ้น มูลค่า 2.46 ล้านบาท รวมสินค้าผิดกฎหมายทั้งหมด 210,300 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 33,075,000 บาท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์อื่น ๆ ที่อาจมีสินค้าผิดกฎหมายแอบแฝงอยู่

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยืนยันว่าการดำเนินคดีจะไม่หยุดเพียงแค่การตรวจยึดสินค้าเท่านั้น แต่จะมีการขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินด้วย โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ข้อมูลจากกรมศุลกากรระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมคดีลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว 298 คดี รวมมูลค่ากว่า 73.25 ล้านบาท ขบวนการลักลอบมักใช้วิธีการสำแดงสินค้าเป็นสิ่งของประเภทอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด

รัฐบาลไทยยังคงมีมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน และจะดำเนินการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศบุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาในด้านการควบคุม ซึ่งรัฐบาลอาจต้องพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าหลุดเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ

ประชาชนที่พบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กรมศุลกากรหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันไม่ให้สินค้าผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศและสร้างผลกระทบต่อสังคม