เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยบางน้ำจืด ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ที่อาคารพาณิชย์ 6 ชั้น พร้อมชั้นลอยและดาดฟ้า ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทันทีที่รับแจ้ง ได้ประสานรถดับเพลิงจาก อบต.บางน้ำจืด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 20 คันมาระดมช่วยกันควบคุมเพลิง

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าไฟได้ลุกลามจากอาคารที่เป็นบริษัทขายส่งสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์ไปยังร้านข้างเคียง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการควบคุมเพลิงที่ลุกลามไปจนเกือบถึงร้านพัฒนชัยดีเซลที่อยู่ติดกัน

ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิงเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนตกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังทำการฉีดน้ำบนกระเช้าสูง ต้องเผชิญกับอันตราย เมื่อสายไฟฟ้าแรงสูงที่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าอยู่สัมผัสกับร่างของเจ้าหน้าที่จนเกิดไฟชอร์ต เจ้าหน้าที่เสียสติและตกจากกระเช้า ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลในอาการสาหัส ส่วนผู้ช่วยที่ขึ้นไปด้วยกันก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ในการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าในระหว่างเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายวสันต์ อายุ 73 ปี และ นางอาภาพรรณ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอาคาร พบร่างของทั้งสองในจุดต่างๆ ภายในอาคาร โดยนายวสันต์เสียชีวิตในห้องครัวชั้น 3 และนางอาภาพรรณเสียชีวิตที่บันไดชั้น 4 ระหว่างทางขึ้นไปดาดฟ้า สภาพของร่างทั้งสองถูกไฟไหม้จนไม่สามารถระบุได้ทันที

ลูกสาวของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เธอได้โทรหาพ่อแม่ครั้งสุดท้ายในเวลา 04.00 น. ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้อีกเลย ทำให้ครอบครัวตกใจและเศร้าเสียใจมาก

นายสัมพันธ์ เจ้าของร้านใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังซ่อมเครื่องยนต์อยู่ด้านล่าง และได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง ก่อนจะเห็นควันและไฟลุกขึ้นจากอาคาร ตนจึงรีบโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพยายามโทรหาผู้พักอาศัยภายในอาคาร แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป

ทางด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ห้องที่จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอะไหล่ยนต์มือสอง เบื้องต้นได้มีการยืนยันผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของอาคารทั้งสองคน และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว

นายผู้ว่าฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีคำสั่งห้ามใช้อาคารนี้เป็นการชั่วคราว และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ต่อไป

สาเหตุของเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบในอีกไม่ช้า เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้