Oppo Reno13 F และ Reno13 F 5G สเปกแตกต่าง ชิปเซ็ตใหม่และการชาร์จเร็ว 45W

Oppo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในซีรีส์ Reno13 โดยมีการนำเสนอสองรุ่นใหม่ที่แตกต่างกันคือ Oppo Reno13 F รุ่น 5G และ Oppo Reno13 F รุ่น 4G โดยทั้งสองรุ่นนี้มีคุณสมบัติพื้นฐานที่คล้ายกันมาก แต่ต่างกันที่ชิปเซ็ตที่ใช้ภายใน

Oppo Reno13 F 5G ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิปเซ็ต Helio G100 ที่ใช้ในรุ่น 4G ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ RAM แบบ LPDDR4X โดยรุ่น 5G มีให้เลือก 8GB หรือ 12GB ขณะที่รุ่น 4G มีแค่ 8GB ส่วนการเก็บข้อมูลรุ่น 5G ใช้ UFS 3.1 มีตัวเลือก 128GB, 256GB หรือ 512GB ส่วนรุ่น 4G ใช้ UFS 2.2 โดยมีความจุ 256GB และ 512GB และทั้งสองรุ่นรองรับ microSD card เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ

หน้าจอของทั้งสองรุ่นมีขนาด 6.67 นิ้ว ใช้จอ OLED ความละเอียด 1080p+ อัตราการรีเฟรช 120Hz พร้อมการรองรับสี sRGB และ DCI-P3 ถึง 100% และสามารถปรับความสว่างได้สูงสุด 1,200 nits พร้อมป้องกันด้วยกระจก Dragontrail Star 2 อีกทั้งทั้งสองรุ่นยังมีการป้องกันฝุ่นและน้ำที่ดี โดยได้รับมาตรฐาน IP6X (กันฝุ่น) และ IPX6, IPX8, และ IPX9 ซึ่งหมายถึงสามารถทนการดำน้ำลึก 2 เมตรได้นานถึงครึ่งชั่วโมงและทนต่อแรงดันน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 80°C

ในส่วนของกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.8 พร้อม OIS), กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP (มุมกว้าง 112°) และกล้อง Macro 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ซึ่งรองรับการถ่ายเซลฟี่คมชัด โดยรุ่น 5G รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30fps ขณะที่รุ่น 4G บันทึกได้แค่ 1080p

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,800mAh ที่รองรับการใช้งานได้นานถึง 14 ชั่วโมงในระหว่างการเล่นเกมเบาๆ และยังรองรับการชาร์จเร็ว 45W SuperVOOC Flash Charge ซึ่งสามารถชาร์จจาก 1% เป็น 44% ได้ภายในเวลา 30 นาที

Oppo Reno13 F และ Reno13 F 5G มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Plume Purple, Graphite Gray, Skyline Blue และ Luminous Blue โดยจะเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก่อน และข้อมูลวันที่และราคาจะมีการประกาศในภายหลัง