ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโซลูชันต่างๆ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเขียนโค้ดกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพของ Y Combinator ซึ่งมีสตาร์ทอัพกว่า 25% ที่ใช้ AI ในการสร้างโค้ดถึง 95% ของโค้ดทั้งหมด โดยไม่รวมการตั้งค่าไลบรารีหรือการนำเข้าข้อมูลต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพา AI ในกระบวนการพัฒนาโปรดักต์ในปัจจุบัน

เจเร็ด ฟรีดแมน (Jared Friedman) ผู้ร่วมก่อตั้ง Y Combinator กล่าวว่า "มันไม่เหมือนกับการที่เราลงทุนในผู้ก่อตั้งที่ไม่มีทักษะทางเทคนิค ทุกคนในกลุ่มนี้มีทักษะทางเทคนิคที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างผลิตภัณฑ์จากศูนย์ได้ แต่ตอนนี้ 95% ของโค้ดเหล่านั้นถูกสร้างโดย AI" คำว่า "vibe coding" ที่ถูกกล่าวถึงครั้งแรกโดยอังเดร คาร์ปาธี (Andrej Karpathy) อดีตหัวหน้าทีม AI ของเทสลา และอดีตนักวิจัยของ OpenAI ถูกใช้เพื่ออธิบายกระบวนการเขียนโค้ดโดยใช้โมเดลภาษา (LLMs) และอินสติ้งต์ของผู้พัฒนา โดยไม่ต้องเน้นการเขียนโค้ดด้วยมือ

แม้ว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดจะช่วยให้กระบวนการพัฒนาเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่นักพัฒนาก็ยังคงต้องระมัดระวังในเรื่องของข้อบกพร่องในโค้ดที่ AI สร้างขึ้น เนื่องจากโค้ดที่ได้จาก AI อาจมีบั๊กหรือข้อผิดพลาดด้านความปลอดภัยที่อาจไม่สามารถมองเห็นได้ทันที ดียาน่า ฮู (Diana Hu) ผู้ร่วมงานของ Y Combinator กล่าวว่า "แม้ว่าผู้สร้างผลิตภัณฑ์จะพึ่งพา AI อย่างมาก แต่พวกเขายังคงต้องมีทักษะในการอ่านโค้ดและหาจุดบกพร่อง การทำ ‘vibe coding’ จึงไม่ใช่แค่การใช้ AI เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีความรู้และความสามารถในการตัดสินว่าโค้ดที่ได้จาก AI ดีหรือไม่ดี"

ในอนาคตนักพัฒนาจะต้องมีทักษะการใช้ AI เป็นเครื่องมือในการเขียนโค้ด แต่ยังคงต้องมีความรู้พื้นฐานในการตรวจสอบโค้ดและหาจุดบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถพัฒนาโปรดักต์ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังต้องมีทักษะในการเลือกใช้โมเดล AI ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทของโค้ด เนื่องจาก AI แต่ละตัวอาจมีความสามารถแตกต่างกัน

การใช้ AI ในการเขียนโค้ดถือเป็นการปฏิวัติวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งได้รับการลงทุนจากนักลงทุนจำนวนมากในปีที่ผ่านมา เช่น Bolt.new, Codeium, Cursor, Lovable และ Magic ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเทคโนโลยีนี้กำลังได้รับการยอมรับในวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกัน นักพัฒนาก็ยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ AI ในการสร้างโค้ด โดยเฉพาะเมื่อโปรดักต์เติบโตและมีผู้ใช้งานจำนวนมาก

การใช้ AI ในการเขียนโค้ดจึงไม่ใช่แค่การมองหาวิธีการทำงานที่เร็วและสะดวกขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้ทั้งความรู้ทางเทคนิคและการตรวจสอบโค้ดอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าโปรดักต์ที่พัฒนาออกมาไม่เพียงแต่มีฟีเจอร์ที่ตรงตามความต้องการ แต่ยังคงปลอดภัยและมีคุณภาพในระยะยาว

ทีมา : techcrunch