Google กับแนวทางการจัดอันดับเนื้อหาที่สร้างโดย AI
วันที่โพสต์: 8 กุมภาพันธ์ 2568 05:46:56 การดู 4 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ในยุคที่เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของชีวิตเรา ไม่เว้นแม้กระทั่งในวงการสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ หลายคนอาจถามกันว่า "ถ้าเราใช้ AI สร้างเนื้อหา แล้ว Google จะรับรู้หรือจัดอันดับเนื้อหานั้นอย่างไร?" คำตอบที่ Google ให้ก็คือว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าเนื้อหานั้นถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์หรือ AI แต่เป็นคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเนื้อหานั้นเอง
เมื่อพูดถึงการจัดอันดับใน Google Search สิ่งที่ Google ยึดถือมาตลอดคือความเป็นประโยชน์และความถูกต้องของข้อมูล โดยมีแนวคิดที่เรียกว่า E-E-A-T ซึ่งย่อมาจาก Expertise (ความเชี่ยวชาญ), Experience (ประสบการณ์), Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ) และ Trustworthiness (ความไว้วางใจ) หากเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นไม่ว่าจะเป็นโดยมนุษย์หรือโดย AI สามารถแสดงให้เห็นถึงหลักการเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ก็สามารถมีโอกาสที่ดีในการติดอันดับได้
จากประสบการณ์และความเปลี่ยนแปลงในวงการ SEO ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Google ได้พบกับปัญหาของเนื้อหาที่ผลิตออกมาจำนวนมากในลักษณะ "ปั่น SEO" ซึ่งมักจะมีข้อมูลซ้ำซ้อนและขาดคุณค่า ทำให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้น Google จึงได้พัฒนาระบบและแนวทางในการตรวจจับเนื้อหาที่อาจเป็นสแปม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI ในการผลิตเนื้อหาหรือการผลิตเนื้อหาจากมนุษย์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ ระบบ SpamBrain ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมของเนื้อหาที่มีลักษณะเป็นสแปม ระบบนี้สามารถระบุได้ว่าเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นมีลักษณะการปั่น SEO หรือมีคีย์เวิร์ดซ้ำซ้อนกันมากเกินไปหรือไม่ ซึ่งหมายความว่าถ้าเราใช้ AI ในการผลิตเนื้อหาโดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบหรือปรับปรุงให้มีคุณภาพเพียงพอ อาจจะถูก Google พิจารณาว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่คุ้มค่าและอาจส่งผลให้เว็บไซต์ถูกลดอันดับในผลการค้นหา
แต่ถึงกระนั้น Google ก็ไม่ได้มองว่า AI เป็นศัตรูของผู้สร้างเนื้อหา หากใช้อย่างถูกวิธี AI สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการผลิตเนื้อหาได้อย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น การใช้ AI เพื่อช่วยร่างโครงเรื่อง หรือการให้ไอเดียในการเขียนบทความ หลังจากนั้นจึงให้ผู้เขียนมาดูแลตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลให้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยเฉพาะในหัวข้อที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น สุขภาพ การเงิน หรือกฎหมาย
แนวทางที่ Google ให้ความสำคัญคือการที่เราควรใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเหลือในการสร้างเนื้อหา ไม่ใช่เครื่องมือที่มาทำงานแทนที่มนุษย์ทั้งหมด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ใช้งานจะรู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติและความลึกซึ้งของเนื้อหาที่ถูกเขียนด้วยความรู้และประสบการณ์จริง ๆ ของมนุษย์ หากเราเพียงแค่พึ่งพา AI ในการผลิตเนื้อหาโดยไม่มีการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมมุมมองของมนุษย์เข้าไป อาจทำให้เนื้อหาดูแห้งและขาดความเป็นส่วนตัว ซึ่งในโลกของการสื่อสารออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบันนั้น การนำเสนอข้อมูลที่มีเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของเรายืนหยัดได้
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องของการเปิดเผยว่ามีการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหรือไม่ แม้ว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่บังคับให้ต้องเปิดเผย แต่ในบางกรณีที่ข้อมูลนั้นสำคัญและอาจมีผลต่อความน่าเชื่อถือของผู้ใช้งาน เช่น ในเนื้อหาด้านสุขภาพหรือการเงิน การระบุว่าเนื้อหานั้นมีการใช้ AI เข้ามาช่วยและได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว อาจช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้อ่านได้มากขึ้น
สรุปได้ว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงในการช่วยสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ หากเราใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและไม่พึ่งพามันเพียงอย่างเดียว แต่กลับมาผสมผสานกับความรู้และประสบการณ์ของมนุษย์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง Google ยังคงมุ่งเน้นที่การนำเสนอข้อมูลที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สร้างเนื้อหาควรให้ความสำคัญเหนือทุกสิ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว การสร้างเนื้อหาที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงและประสบการณ์ การใช้ AI เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเราประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่การที่เราใส่ใจในรายละเอียด ปรับปรุงและตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในโลกของการค้นหาด้วย Google นั้น ผู้ใช้งานต้องการเห็นเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือและมีคุณค่าอย่างแท้จริง และนั่นคือสิ่งที่เราควรยึดมั่นเมื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยในการทำงานของเราในทุกวัน
ที่มาข้อมูล : Google