MG ES5 เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่มาแทน MG ZS EV ขับขี่ไกลสูงสุด 525 กม.
วันที่โพสต์: 19 ตุลาคม 2567 07:41:22 การดู 40 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
MG ES5 เป็นรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่ MG ZS EV โดยใช้แพลตฟอร์ม Modular Scalable Platform (MSP) ที่มีพื้นฐานเดียวกับ MG4 ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่น ZS เจเนอเรชันที่ 2 อย่างสิ้นเชิง การพัฒนา MG ES5 นี้มุ่งเน้นที่การแยกสายการผลิตระหว่างรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้าล้วน ทำให้ MG ES5 ได้รับการออกแบบบนแพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากรุ่น ZS EV ที่ใช้ตัวถังเดียวกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า
ดีไซน์ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว MG ES5 มาพร้อมกับไฟหน้าแบบสองชั้นที่ให้ลุคทันสมัยและโฉบเฉี่ยว นอกจากนี้ยังไม่มีการติดตั้งกระจังหน้าแบบรถยนต์สันดาป การออกแบบตัวถังเน้นความเฉียบคมด้วยเส้นสายที่ชัดเจน แตกต่างจาก MG ZS อย่างสิ้นเชิง โดยไม่มีชิ้นส่วนใดๆ ที่ใช้ร่วมกันได้ ทั้งนี้ไฟท้ายของ MG ES5 ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นแถบ LED พาดยาวตลอดความกว้างของตัวรถ ซึ่งคล้ายคลึงกับรุ่น MG4 สร้างความโดดเด่นที่สะดุดตา
ห้องโดยสารภายในหรูหราและทันสมัย ภายในห้องโดยสารของ MG ES5 ถูกตกแต่งด้วยสีครีมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกหรูหรา ผสานกับหน้าจอกลางแบบสัมผัสที่ถูกติดตั้งลอยตัวขึ้นจากแผงคอนโซล เสริมด้วยหลังคากระจกที่มีความยาวไปจนถึงเบาะแถวที่ 2 ทำให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งและโล่งสบาย นอกจากนี้ยังมีแผงคอนโซลกลางแบบลอยตัวซึ่งออกแบบมาให้มีพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น ทำให้ MG ES5 เป็นรถยนต์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
สมรรถนะที่ตอบโจทย์การขับขี่ระยะไกล MG ES5 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยล้อหลังและติดตั้งแบตเตอรี่จาก SAIC-CATL ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 ขนาด โดยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สุดมีความจุ 62.2 kWh สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 525 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC) ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกลในทุกเส้นทาง
การรอคอยในตลาดต่างประเทศ ในขณะนี้ MG ES5 ยังไม่ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดต่างประเทศ โดยยังคงต้องรอการประกาศจาก MG ถึงกำหนดการวางจำหน่ายและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและรุ่นย่อยที่จะทำตลาดต่อไป
MG ES5 นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ MG ที่เน้นทั้งสมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่ทันสมัย เตรียมพร้อมที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาดยานยนต์ทั่วโลก