กองทัพบกออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อกรณีความเคลื่อนไหวทางทหารบริเวณ "ปราสาทตาควาย" ซึ่งยังเป็นจุดปะทะสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่บริเวณรอบปราสาทได้มากกว่าเดิม แม้ยังไม่สามารถเข้ายึด "เนิน 350" ได้ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญสูงทางทหาร

ผู้แทนกองทัพบกระบุว่า ในช่วงสุดท้ายของการปฏิบัติการ กำลังของไทยได้พยายามบุกเข้ายึดเป้าหมายจุดยุทธศาสตร์หมายเลข 06 หรือเนิน 350 แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อาจถือว่าเป็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่สูงชันและเป็นที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม ทำให้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้

"เราต้องยอมรับว่าเนิน 350 เป็นจุดที่กองกำลังกัมพูชาใช้เป็นฐานยิงอาวุธเข้ามาในพื้นที่ใกล้ตัวปราสาท จึงไม่สามารถวางกำลังประจำในบริเวณตัวปราสาทได้เต็มรูปแบบ และมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีจาก BM-21 ของฝ่ายตรงข้าม" แหล่งข่าวในกองทัพกล่าว

ในช่วงท้ายของภารกิจ กองกำลังไทยได้พยายามเข้าสู่เป้าหมายทั้งเนิน 350 และตัวปราสาทตาควายพร้อมกัน แต่กลับเผชิญกับกับดักสนามทุ่นระเบิดที่วางรอบพื้นที่ปราสาท ส่งผลให้ "หมวดบุ๊ค" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิด เหตุการณ์นี้ทำให้การรุกคืบของไทยในช่วงเวลาสุดท้ายต้องหยุดชะงักลง

แม้จะไม่สามารถยึดเนิน 350 ได้สำเร็จ กองทัพบกยังคงยืนยันว่าภารกิจในภาพรวมถือว่าบรรลุผล เพราะสามารถควบคุมพื้นที่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งในนิยามทางการทหาร "พื้นที่" มิได้หมายถึงสิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงองค์ประกอบโดยรอบที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การรบ

"การที่ทหารกัมพูชายังคงปรากฏอยู่ที่บริเวณตัวปราสาท ไม่ได้หมายความว่าไทยเป็นฝ่ายแพ้ แต่อยู่ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิง ทำให้ไม่มีการเคลื่อนไหวทางยุทธการเพิ่มเติมในเวลานี้" กองทัพบกระบุ

สำหรับกรณีทุ่นระเบิดซึ่งละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศนั้น กองทัพไทยชี้ว่า มีหลักฐานเชิงประจักษ์หลายกรณีที่บ่งชี้ว่า ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้กับดักทุ่นระเบิดจำนวนมากในพื้นที่รอบปราสาท โดยเฉพาะทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ที่พบเป็นพวงจำนวนหลายลูก ไม่ใช่เพียงชิ้นเดียว ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถยืนยันการละเมิดได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ "ปราสาทตาควาย" ถือเป็นพื้นที่เดียวในแนวชายแดนที่ยังคงมีการวางกำลังของทหารทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นจุดที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญสูงสุดในเชิงยุทธศาสตร์ โดยฝ่ายไทยยืนยันว่าแม้จะยังไม่สามารถตั้งกำลังประจำที่ตัวปราสาทได้ แต่การควบคุมพื้นที่โดยรอบและการปฏิบัติภารกิจตามหลักทหารยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ข้อจำกัดของการหยุดยิง