ความแตกต่างระหว่างแท็กและหมวดหมู่ที่นักพัฒนาเว็บไซต์ควรรู้
วันที่โพสต์: 22 พฤศจิกายน 2567 07:40:47 การดู 2 ครั้ง
ในกรณีของแท็ก (Tags) และหมวดหมู่ (Categories) ที่ซ้ำกันในเว็บไซต์ Google อาจไม่มองว่าเป็นการซ้ำโดยตรง ตราบใดที่มีการใช้อย่างเหมาะสมและไม่สร้างเนื้อหาที่ซ้ำกัน (Duplicate Content) ในมุมมองของ SEO:
การทำงานของ Google เกี่ยวกับแท็กและหมวดหมู่:
1. หมวดหมู่ (Categories)
หมวดหมู่ใช้เพื่อจัดกลุ่มเนื้อหาหลักในระดับโครงสร้างของเว็บไซต์ เช่น บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ "อาหาร", "การท่องเที่ยว", หรือ "เทคโนโลยี" ควรถูกแบ่งไว้ในหมวดหมู่ที่เหมาะสมที่สุด
2. แท็ก (Tags)
แท็กใช้สำหรับการเชื่อมโยงคำหลักที่เกี่ยวข้องในระดับรายละเอียด เช่น บทความที่อยู่ในหมวด "อาหาร" อาจใช้แท็กอย่าง "อาหารไทย", "อาหารเพื่อสุขภาพ", หรือ "อาหารจานด่วน" เพื่อช่วยเพิ่มการค้นหา.
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น:
1. แท็กและหมวดหมู่ซ้ำกัน
หากคุณใช้คำเดียวกันสำหรับทั้งแท็กและหมวดหมู่ เช่น มีทั้ง "อาหาร" เป็นหมวดหมู่ และ "อาหาร" เป็นแท็กในบทความเดียวกัน
อาจทำให้ Google เข้าใจผิด ว่าคุณกำลังสร้างเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน
อาจทำให้เกิด URL ที่แตกต่างกันสำหรับหมวดหมู่และแท็ก เช่น:
/category/อาหาร
/tag/อาหาร
ส่งผลให้เกิด Duplicate Content ได้
2. แท็กมากเกินไป (Tag Spamming)
การใช้แท็กมากเกินความจำเป็นหรือใส่แท็กที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา อาจทำให้คุณถูก Google มองว่าเป็นการ "สแปมแท็ก" ซึ่งส่งผลเสียต่อ SEO
วิธีป้องกัน:
1. กำหนดบทบาทให้ชัดเจน
ใช้ หมวดหมู่ สำหรับการจัดการโครงสร้างหลักของเว็บไซต์
ใช้ แท็ก เพื่อเชื่อมโยงคำที่เกี่ยวข้องในระดับเฉพาะเจาะจง
2. หลีกเลี่ยงการซ้ำคำ
หลีกเลี่ยงการใช้คำเดียวกันสำหรับแท็กและหมวดหมู่ เช่น:
หมวดหมู่: "อาหารไทย"
แท็ก: "เมนูไทย", "สูตรอาหาร"
3. ตั้งค่า Canonical URLs
ในกรณีที่จำเป็นต้องมี URL หลายประเภท เช่น ทั้ง /category/อาหาร และ /tag/อาหาร ควรตั้งค่า Canonical URL เพื่อบอก Google ว่า URL ใดเป็นตัวหลักที่ต้องจัดอันดับ
4. ตรวจสอบการจัดทำดัชนี (Indexing)
ใช้ไฟล์ robots.txt หรือปลั๊กอิน SEO เช่น Yoast หรือ Rank Math เพื่อกำหนดว่า:
จะไม่ให้ Google ทำดัชนีแท็ก (Tags)
หรือให้ทำดัชนีเฉพาะหมวดหมู่ (Categories) เท่านั้น
แท็กและหมวดหมู่ที่ซ้ำกัน ไม่จำเป็นต้องมีปัญหาโดยตรง หากมีการใช้งานอย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน แต่หากใช้คำเดียวกันและปล่อยให้เกิด URL ที่ซ้ำกันโดยไม่มีการจัดการ อาจส่งผลเสียต่อ SEO ได้
แท็ก: Google Tags แท็ก หมวดหมู่ SEO