สถานการณ์ในประเทศเมียนมากลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่กองทัพเมียนมาเพิ่งประกาศหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่กลับเกิดเหตุโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่พลเรือนในรัฐคาเรนนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 แหล่งข่าวระดับสูงจากกองกำลังป้องกันตนเองกะเหรี่ยงคาเรนนี (Karenni Army: KA) เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 เมษายน เวลาประมาณ 14.00 น. กองทัพอากาศเมียนมาได้ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าโจมตีบริเวณระหว่างหมู่บ้านปีเก้งกับบ้านโกกุ เมืองโมเบีย จังหวัดลอยก่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของชาวคาเรนนี

การโจมตีดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย และมีทหารฝ่าย KA เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ขณะเดียวกันแรงระเบิดจากอากาศยานยังส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้เผาบ้านเรือนประชาชนไปอีก 4 หลัง

“นี่ไม่ใช่แค่การโจมตี แต่คือการทรยศต่อคำพูดของตัวเอง” แหล่งข่าวฝ่าย KA กล่าว พร้อมระบุว่า การกระทำของกองทัพเมียนมาครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดคำมั่นที่เพิ่งประกาศว่าจะหยุดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.0 ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนก่อนในพื้นที่ภาคกลางของเมียนมา ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อชุมชนในรัฐฉาน มัณฑะเลย์ และรัฐคะยา (คาเรนนี) โดยมีรายงานว่าหลายพื้นที่ยังคงรอการเข้าถึงของทีมกู้ภัยและความช่วยเหลือจากภายนอก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในรัฐคาเรนนีที่มีการสู้รบต่อเนื่องระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอาจถูกจำกัดหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งได้ออกมาเรียกร้องให้กองทัพเมียนมารักษาคำมั่นและเปิดเส้นทางความช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารซ้ำเติมวิกฤตในพื้นที่ประสบภัย