27 มีนาคม สำนักข่าว Reuters รายงาน คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้กำกับการทดสอบโดรนฆ่าตัวตายที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตี และกล่าวว่า การพัฒนาอาวุธไร้คนขับและการใช้ AI ควรเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในการพัฒนากองทัพสมัยใหม่ของเกาหลีเหนือ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญในการใช้อุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการป้องกันและการโจมตีในสนามรบ

คิม จอง อึน ได้ตรวจสอบการพัฒนาโดรนสอดแนมและอุปกรณ์ทางทหารใหม่ๆ ที่ได้รับการอัปเกรด ซึ่งสามารถตรวจจับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และกิจกรรมของศัตรูทั้งในพื้นที่บกและทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการป้องกันสูงหรือมีภูมิประเทศที่ท้าทาย เช่น ภูเขาหรือป่าทึบ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังและการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากนี้ คิมยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยระบุว่า "การพัฒนาอุปกรณ์ไร้คนขับและการใช้ AI ควรเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในการปรับปรุงกองทัพ" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเสริมสร้างความสามารถทางทหาร

ในการทดสอบครั้งนี้ เกาหลีเหนือได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโดรนฆ่าตัวตายที่ใช้ AI โดยมีภาพถ่ายเผยให้เห็นการโจมตีของโดรนที่สามารถตรวจจับและระบุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จากนั้นมันจะระเบิดเมื่อชนกับเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นการทดสอบที่สำคัญในแง่ของการพัฒนาอาวุธที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมจากมนุษย์

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้เปิดตัวเครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศที่มีระบบเตือนภัยก่อน (AEW) ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบป้องกันทางอากาศที่มีอยู่ โดยเครื่องบินนี้สามารถตรวจจับและติดตามการเคลื่อนไหวของเครื่องบินศัตรูและขีปนาวุธที่บินอยู่ในระดับต่ำได้ โดยที่เครื่องบินเหล่านี้จะสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นในภูมิประเทศที่มีภูเขาหรือพื้นที่ที่มีการปิดบังจากเรดาร์บนพื้นดิน

ในภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐ คิม จอง อึน ได้ถูกถ่ายภาพขณะเดินขึ้นบันไดไปยังเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ 4 ตัวและโดมเรดาร์ติดอยู่ที่ลำตัวเครื่องบิน ซึ่งมีภารกิจในการตรวจจับเครื่องบินศัตรูในระยะไกลเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ

การพัฒนาเครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศนี้มีความสำคัญมากสำหรับเกาหลีเหนือ เนื่องจากระบบเรดาร์บนพื้นดินของเกาหลีเหนือนั้นมีข้อจำกัดในการตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศที่ขรุขระ ซึ่งเครื่องบิน AEW จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจจับภัยคุกคามจากอากาศได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากการพัฒนาโดรนฆ่าตัวตายและเครื่องบินตรวจการณ์แล้ว เกาหลีเหนือยังได้พัฒนาอุปกรณ์ใหม่ๆ สำหรับการสอดแนม การเก็บข้อมูลข่าวกรอง การรบกวนสัญญาณ และระบบโจมตี โดยในภาพถ่ายที่เผยแพร่มีการแสดงให้เห็นโดรนที่กำลังโจมตีเป้าหมายในรูปทรงของรถถัง โดยโดรนนี้สามารถระเบิดได้เมื่อเข้าถึงเป้าหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าของเกาหลีเหนือในการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ทหารเกาหลีเหนือที่ได้รับการส่งไปยังรัสเซียเพื่อช่วยรัสเซียในสงครามยูเครน ได้รับประสบการณ์จากการใช้งานโดรนในการทำสงคราม ซึ่งช่วยให้ทหารเหล่านี้สามารถพัฒนาความสามารถในการใช้งานโดรนในสนามรบได้ดีขึ้น

การพัฒนาของเกาหลีเหนือในด้านเทคโนโลยีทางทหารนี้ นับเป็นความพยายามที่มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศและการตอบโต้ภัยคุกคามจากภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองและการทหารในภูมิภาคเกาหลีและยุโรปตะวันออกกำลังตึงเครียด

ในขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือยิ่งทวีความสำคัญในระดับโลก ข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการใช้อาวุธเหล่านี้ในสงครามในอนาคตยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก

ที่มา : reuters