เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 กองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตย (DKBA) ได้ส่งมอบชาวต่างชาติที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมออนไลน์จากพื้นที่เมียวดี กลับประเทศของตนเองผ่านเส้นทางชายแดนไทย-เมียนมา โดยการลำเลียงนี้เกิดขึ้นจากการปราบปรามกลุ่มอาชญากรที่เมืองจ็อกเค็ท ซึ่งมีชาวต่างชาติรวม 260 คนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำผิดของแก๊งดังกล่าว

ชาวต่างชาติทั้งหมดถูกส่งมายังท่าน้ำฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเมยที่ท่า 28 บ้านช่องแคบ ในพื้นที่ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นเขตชายแดนไทย-เมียนมา โดยทาง DKBA ได้นำชาวต่างชาติทั้งหมดเดินทางมาถึงด้วยรถยนต์กระบะ ก่อนจะข้ามไปฝั่งไทยเพื่อรอการลำเลียงกลับประเทศ

เหยื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากทวีปแอฟริกา โดยมีผู้มาจากประเทศเอธิโอเปีย 46 คน, เคนยา 33 คน, ยูกันดา 2 คน, แทนซาเนีย 1 คน, และบราซิล 2 คนจากทวีปอเมริกาใต้ ส่วนที่เหลือมาจากประเทศในทวีปเอเชีย เช่น ปากีสถาน 31 คน, ฟิลิปปินส์ 26 คน, ลาว 19 คน, บังกลาเทศ 13 คน, ไต้หวัน 4 คน, เนปาล 1 คน และศรีลังกา 1 คน

พลจัตวาไซ จอ หล่า ผู้บัญชากา DKBA คนที่ 1 เปิดเผยว่า สถานการณ์การลักลอบค้ามนุษย์นี้ได้รับการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกาที่ถูกหลอกลวงให้เข้ามาทำงานในธุรกิจออนไลน์ผิดกฎหมาย ส่วนทางการจีนมีท่าทีจะลงทุนในพื้นที่เมียวดี แต่จะต้องเป็นกิจการที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาก่อน เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย

ในด้านการดำเนินการของฝ่ายไทย ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ได้ประสานงานกับทหารกองกำลังนเรศวรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ เพื่อรับผิดชอบในการลำเลียงและคัดกรองบุคคลเหล่านี้อย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำและตรวจสอบประวัติเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป