วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.50 น. น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวถึงการหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เกี่ยวกับความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้แสดงความชื่นชมในความเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในการดำเนินมาตรการจัดการปัญหาดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและชัดเจน

นายกรัฐมนตรีไทยระบุว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกันในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยจีนจะเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการ เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาที่มีผลกระทบข้ามพรมแดน ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานร่วมกันระหว่างไทยและจีนจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อถูกถามถึงมาตรการที่ประเทศไทยดำเนินการต่อเมียนมาหลังการตัดไฟและสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รัฐบาลไทยจะประเมินผลของการดำเนินการนี้ว่าช่วยลดปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน และประชาชนให้การตอบรับอย่างไร โดยย้ำว่า การทำเช่นนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไทยและลดอันตรายจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการประท้วงของประชาชนในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย หน้าที่ของเราคือการดูแลผลประโยชน์ของประชาชนไทยเป็นหลัก ทุกประเทศก็ต้องดูแลคนของตัวเอง” และจะร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมาในเรื่องการเจรจาเพื่อหาทางออกที่ดี

สำหรับกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดถึงการพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในตึก 25 ชั้นที่ปอยเปต และข้อเสนอเรื่องการถอนสัญชาติไทยนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณแนะนำเป็นข้อเสนอที่สามารถนำไปพิจารณาได้ และในภารกิจที่กำลังจะไปเยือนกัมพูชา จะมีการหารือในเรื่องนี้เพื่อหาทางร่วมมือในการจัดการปัญหาดังกล่าว