toyota ยังคงครองตลาดรถยนต์ในไทย ปี 2567 ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง

โตโยต้ายังคงครองแชมป์ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยอย่างเหนียวแน่นในปี 2567 โดยในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายรวมสูงถึง 199,487 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 38.5% แม้ตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้จะเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ยอดขายรวมรถยนต์ทั้งหมดในช่วง 11 เดือนลดลง 26.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายรวม 518,659 คัน

ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ตลาดรถยนต์ไทยมียอดขายรวม 42,309 คัน ลดลงถึง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดรถยนต์นั่ง (Passenger Cars) ชะลอตัวลง 26.7% ด้วยยอดขาย 18,000 คัน และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Vehicles) ลดลง 34.4% ทำยอดขาย 24,309 คัน ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีการลดลงอย่างมากที่ 34.7% ด้วยยอดขาย 14,435 คัน

แม้ว่าตลาดโดยรวมจะมีการชะลอตัว แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ BEV (Battery Electric Vehicle) ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตและความสนใจจากผู้บริโภค แม้ว่ายอดขายในช่วง 11 เดือนแรกจะลดลง 26% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยยอดขายรถยนต์ HEV ลดลง 20% และยอดขาย BEV ลดลง 36%

สำหรับยอดขายรถยนต์ในกลุ่ม xEV รวมทั้งหมด 14,988 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 35% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด โดยรถยนต์ HEV มียอดขาย 8,373 คัน คิดเป็นสัดส่วน 56% ของตลาด xEV ทั้งหมด และรถยนต์ BEV มียอดขาย 5,870 คัน คิดเป็น 39% ของยอดขาย xEV ทั้งหมด

ในส่วนของตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม 2567 คาดว่าจะมีการฟื้นตัวจากยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2024 ซึ่งมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายต่างๆ และจัดแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นการซื้อรถยนต์ในช่วงท้ายปี ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2024 สูงถึง 54,513 คัน เพิ่มขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดในเดือนธันวาคมได้

ส่วนในด้านการแบ่งตลาดตามประเภทของรถยนต์ โตโยต้ายังคงครองส่วนแบ่งตลาดในหลายๆ กลุ่ม โดยในตลาดรถยนต์นั่ง (Passenger Car) โตโยต้ายอดขายอยู่ที่ 59,784 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 29.4% ลดลง 35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงรักษาส่วนแบ่งสูงสุด

ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Vehicles) โตโยต้ายังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 44.3% โดยมียอดขาย 139,703 คัน แม้ว่ายอดขายจะลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pickup และ PPV) โตโยต้ายังคงเป็นผู้นำด้วยยอดขาย 82,940 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 45.8% แม้ว่ายอดขายจะลดลง 29.8% ขณะที่อีซูซุและฟอร์ดมีการลดลงในส่วนแบ่งตลาดเช่นกัน

จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในปี 2567 แม้จะมีการลดลงในบางกลุ่มตลาด แต่การเปิดตัวรถรุ่นใหม่และการจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดทำให้โตโยต้ายังคงสามารถรักษาฐานลูกค้าและครองแชมป์ยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการเติบโตของตลาด xEV และการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นทิศทางที่สำคัญในการเติบโตของตลาดรถยนต์ในอนาคต