เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตการเมือง หลังประธานาธิบดีประกาศกฎอัยการศึก เสี่ยงเผชิญการถอดถอน
วันที่โพสต์: 4 ธันวาคม 2567 18:16:40 การดู 22 ครั้ง ผู้โพตส์ baikhao
เกาหลีใต้ต้องเผชิญความปั่นป่วนทางการเมืองครั้งใหญ่หลังจากประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล (Yoon Suk Yeol) ประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันในช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้พรรคฝ่ายค้านหลักผลักดันกระบวนการถอดถอน ขณะที่พรรครัฐบาลกำลังพิจารณาตัดความสัมพันธ์กับผู้นำที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่าย
แม้ว่าประธานาธิบดีจะยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลาเพียง 6 ชั่วโมงหลังการประกาศ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรง ภาพเหตุการณ์ทหารติดอาวุธบุกเข้าสภาแห่งชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ขณะเจ้าหน้าที่สภาใช้ถังดับเพลิงพยายามป้องกัน กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความไม่พอใจในระดับชาติ
พรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี (Democratic Party of Korea) และพันธมิตรฝ่ายค้านอีก 5 พรรค ได้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีในวันพุธ และวางแผนลงมติในช่วงกลางคืนของวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์ นอกจากนี้ยังยื่นญัตติถอดถอนรัฐมนตรีกลาโหม คิม ยงฮยอน (Kim Yong-hyun) ซึ่งได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยการยื่นใบลาออก
รัฐมนตรีกลาโหมได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนสำหรับความสับสนวุ่นวาย พร้อมยืนยันว่าเขาเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อคำสั่งระดมกำลังทหารระหว่างกฎอัยการศึก
แรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกสภา
ขณะเดียวกัน การเรียกร้องให้ถอดถอนยุนได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากซึ่งรวมตัวกันหน้าสภาแห่งชาติในวันพุธ ถือป้ายข้อความเช่น “ถอดถอนยุน” และ “ถึงเวลาที่เขาต้องไป” พร้อมตะโกนเรียกร้องการลาออกของประธานาธิบดี ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
ผู้นำฝ่ายค้าน อี แจมยอง (Lee Jae-myung) กล่าวว่า ยุนเป็นผู้นำที่อาจก่อให้เกิดสงครามจำกัดบนคาบสมุทรเกาหลี หากเขายังคงมองว่ากฎอัยการศึกเป็นเครื่องมือในการควบคุมสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังเตือนว่าการประกาศกฎอัยการศึกครั้งใหม่อาจกระตุ้นให้เกาหลีเหนือดำเนินการตอบโต้
รัฐบาลและพรรครัฐบาลเผชิญการแบ่งแยก
พรรครัฐบาล People Power Party (PPP) แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของยุนอย่างชัดเจน โดยหัวหน้าพรรค ฮัน ดงฮุน (Han Dong-hoon) กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นสิ่งที่ "ผิดอย่างชัดเจน" และเรียกร้องให้รัฐมนตรีกลาโหมถูกปลดออกจากตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ฮัน ดักซู (Han Duck-soo) และผู้นำพรรครัฐบาล ได้ประชุมฉุกเฉินกับผู้ช่วยของยุนเพื่อหาทางออก แต่ยังไม่มีการประกาศผลการประชุมอย่างเป็นทางการ
กระบวนการถอดถอนและปัญหาของศาลรัฐธรรมนูญ
ญัตติถอดถอนประธานาธิบดีต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสองในสามของสมาชิกรัฐสภา หรือ 200 เสียงจากทั้งหมด 300 เสียง เพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญมีผู้พิพากษาเพียง 6 คน เนื่องจากตำแหน่งว่าง 3 ตำแหน่งยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่าการบุกยึดสภาโดยกองกำลังทหารอาจทำให้ยุนถูกตั้งข้อหากบฏหรือการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หากพบว่าการกระทำดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางกระบวนการตัดสินใจของสภา
วิกฤตที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายต่อสถานภาพทางการเมืองของยุนอย่างรุนแรง โดยเขาสูญเสียการสนับสนุนจากสมาชิกพรรครัฐบาลจำนวนมาก นักวิชาการด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ระบุว่า ยุนกำลังเผชิญความโดดเดี่ยวทางการเมืองที่หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่รับตำแหน่ง
การประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความวุ่นวายและกระตุ้นการประท้วงในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการเมืองของเกาหลีใต้
แท็ก: เกาหลีใต้