เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศ โดยพบว่าค่าฝุ่นในหลายพื้นที่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะใน 28 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีค่าฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐาน

ในภาคเหนือ จังหวัดน่านเป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุดในประเทศ ขณะนี้ค่าฝุ่นในพื้นที่ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ วัดได้ 83.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง โดยมีการเฝ้าระวังเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆ เช่น เชียงราย, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน และอุตรดิตถ์ ที่ค่าฝุ่นอยู่ในช่วง 31.7 – 83.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่สีแดงที่มีค่าฝุ่นสูง ได้แก่ จ.หนองคาย ซึ่งวัดได้ถึง 78.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่จังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ก็มีค่าฝุ่นที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน เช่น ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, ร้อยเอ็ด และอำนาจเจริญ เป็นต้น

จากข้อมูลการตรวจวัด ฝุ่น PM2.5 ในภาคกลางและตะวันตกยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยวัดได้ 11.9 – 30.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนภาคตะวันออกและใต้มีค่าฝุ่นต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.0 – 23.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก

คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นในอนาคต

กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 7 – 13 มีนาคม 2568 สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในบางพื้นที่ของภาคเหนือยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในวันที่ 7 มีนาคม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝุ่นสะสมสูง เช่น จังหวัดน่าน, เชียงใหม่, และลำปาง ซึ่งประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ควรเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีค่าฝุ่นลดลงในช่วง 8 – 11 มีนาคม 2568 แต่ยังคงต้องระมัดระวังในบางพื้นที่

คำแนะนำการดูแลสุขภาพ

กรมควบคุมมลพิษขอแนะนำให้ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหากจำเป็นควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก N95 เพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นละออง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด หรือโรคปอด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหมั่นสังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที

สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่สีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือใช้หน้ากากป้องกัน รวมถึงการติดตามข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นละอองได้จากเว็บไซต์ Air4Thai และแอปพลิเคชัน Air4Thai เพื่ออัปเดตข้อมูลอย่างทันท่วงที

การเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องจะช่วยให้ประชาชนสามารถลดความเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ