ฝุ่น PM 2.5 กระทบการบินในกรุงเทพฯ นักบินต้องรับมือกับทัศนวิสัยต่ำ เครื่องบินบางลำต้องเปลี่ยนเส้นทาง
วันที่โพสต์: 27 มกราคม 2568 00:09:01 การดู 7 ครั้ง ผู้โพสต์ admin
วันที่ 26 มกราคม 2568 – ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเริ่มมีผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการเดินทางทางอากาศในกรุงเทพฯ ล่าสุดมีรายงานว่าฝุ่นละอองและหมอกหนาทึบที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ ทำให้ทัศนวิสัยการบินในพื้นที่สนามบินหลักของกรุงเทพฯ อย่างสุวรรณภูมิและดอนเมืองต่ำมาก ส่งผลให้เครื่องบินบางลำต้องเปลี่ยนเส้นทาง (Divert) ไปลงที่สนามบินอื่นที่ทัศนวิสัยดีกว่า
ข้อมูลจาก แฟนเพจ กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว เผยภาพสนามบินสุวรรณภูมิที่ทัศนวิสัยการบินต่ำในช่วงเช้า โดยนักบินต้องลงจอดในสภาพ Low Visibility ซึ่งเป็นสภาพที่เครื่องบินบางลำไม่สามารถลงจอดได้หากไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือไม่ผ่านการรับรองให้บินในสภาพเช่นนี้ ทำให้บางลำต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินอื่นๆ ที่ทัศนวิสัยดีกว่า
การบินในสภาพทัศนวิสัยต่ำ: Non Precision Approach vs. Precision Approach
การบินในสภาพทัศนวิสัยต่ำทำให้เกิดความยากลำบากในการลงจอด โดยทั่วไปมีสองประเภทหลักในการลงจอดในสภาพนี้ ได้แก่ Non Precision Approach และ Precision Approach ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันในการช่วยนำเครื่องบินลงสู่สนามบิน
- Non Precision Approach (NPA): เครื่องบินจะเกาะตามแนวนอน (Lateral Guidance) แต่ไม่มีระบบแนวตั้งในการนำทาง นักบินต้องสามารถมองเห็นรันเวย์หรือไฟนำร่องเพื่อทำการลงจอดได้ หากทัศนวิสัยต่ำจะไม่สามารถลงได้
- Precision Approach: ใช้ระบบ Instrument Landing System (ILS) ซึ่งมีทั้งการนำทางแนวนอนและแนวตั้ง (Lateral + Vertical Guidance) ช่วยให้นักบินสามารถลงจอดได้แม้ในสภาพอากาศที่ทัศนวิสัยต่ำ แต่การลงจอดในสภาพนี้ยังต้องพึ่งพาค่าทัศนวิสัยที่กำหนดไว้ในมาตรฐานของแต่ละสนามบิน
ข้อกำหนด ILS CAT1, CAT2, และ CAT3
สำหรับสนามบินที่สามารถรองรับการบินในสภาพ Low Visibility โดยใช้ระบบ ILS มีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน:
- ILS CAT1: ใช้สำหรับสภาพอากาศปกติ ทัศนวิสัยต้องไม่ต่ำกว่า 550 เมตร และฐานเมฆไม่ต่ำกว่า 200 ฟุต
- ILS CAT2: ใช้ในสภาพอากาศที่ทัศนวิสัยต่ำลง ทัศนวิสัยต้องไม่ต่ำกว่า 300 เมตร หรือ 400 เมตรตามข้อกำหนดของสนามบิน และฐานเมฆไม่ต่ำกว่า 100 ฟุต
- ILS CAT3: ใช้ในสภาพทัศนวิสัยต่ำสุด สนามบินที่สามารถรองรับ CAT3 ส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์พิเศษและใช้เทคโนโลยีการลงจอดอัตโนมัติ (Autoland)
ในกรณีของสุวรรณภูมิเมื่อเช้านี้ ทัศนวิสัยไม่สามารถรองรับ ILS CAT1 ได้ และ ILS CAT2 ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากบางช่วงทัศนวิสัยลดต่ำลงถึง 200 เมตร จึงทำให้เครื่องบินบางลำไม่สามารถลงจอดได้ตามกำหนดการ
ผลกระทบต่อการเดินทาง
เมื่อทัศนวิสัยต่ำและไม่สามารถลงจอดได้ตามกำหนดการ เครื่องบินจะต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินที่ทัศนวิสัยดีกว่า ซึ่งทำให้เกิดความไม่สะดวกและอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเติมน้ำมันหรือรอให้สภาพอากาศดีขึ้นก่อนกลับมาที่สนามบินหลัก การเปลี่ยนเส้นทางนี้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่อาจต้องการเลื่อนการเดินทาง
การเตรียมความพร้อมจากสายการบิน
ในการรับมือกับสภาพการบินที่ยากลำบากนี้ สายการบินต้องมั่นใจว่านักบินได้รับการฝึกอบรมในการบินในสภาพ Low Visibility และเครื่องบินต้องมีความสามารถในการลงจอดในสภาพเช่นนี้ นอกจากนี้ยังต้องมีการจัดเตรียมแผนการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อรองรับการเปลี่ยนสนามบินได้อย่างรวดเร็ว
มาตรการการจัดการภาครัฐ
ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 โดยการลดการปล่อยมลพิษจากแหล่งต่างๆ และเพิ่มการควบคุมการเผาในที่โล่ง แต่การจัดการที่ยั่งยืนจะเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์ฝุ่นกลับมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
ฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญไม่เพียงแต่กระทบต่อสุขภาพประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศที่สนามบินใหญ่ในกรุงเทพฯ นักบินและสายการบินจำเป็นต้องมีความพร้อมในการรับมือกับสภาพการบินในทัศนวิสัยต่ำ เพื่อให้การเดินทางของผู้โดยสารเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
แท็ก: สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ฝุ่นหมอก ทัศนวิสัยต่ำ ฝุ่นPM2.5