เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (สืบสวนนครบาล) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ดำเนินการบุกเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่งในย่านปทุมวัน ซึ่งมีการลักลอบเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย จำนวนมากถึง 3,000 รายการ หลังจากการสืบสวนและล่อซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แผนการดำเนินงานตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่มุ่งเน้นการกวาดล้างการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้สถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าผิดกฎหมายเช่นบุหรี่ไฟฟ้าแพร่กระจายไปยังกลุ่มนักเรียน นักศึกษา โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบพบว่าโกดังเก็บสินค้าดังกล่าวตั้งอยู่ในระยะที่สามารถเข้าถึงจากรั้วมหาวิทยาลัยเพียง 100 เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีนักเรียนและนักศึกษาผ่านไปมาค่อนข้างบ่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตรวจค้นและพบบุหรี่ไฟฟ้าทั้งแบบพร้อมใช้งานและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอีกหลายพันชิ้นที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบศุลกากรอย่างถูกต้อง

หลังจากทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ซึ่งทั้งหมดปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นเพียงพนักงานส่งสินค้า และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการหรือจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายยอมรับว่าทราบดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากการดำเนินการขายผ่านสื่อออนไลน์สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงและหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ได้ จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจดำเนินการตามวิธีนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาว่า "ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง" ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244, 246 และการกระทำในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชน

การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามมาตรการของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามการขายสินค้าผิดกฎหมายที่มีการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายในการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ

เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลการจับกุมต่อไป โดยจะติดตามหาตัวผู้ร่วมขบวนการที่อาจเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายในครั้งนี้ และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน

การเผยแพร่ข่าวนี้เป็นการเตือนภัยประชาชนให้ระมัดระวังการซื้อสินค้าผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ และขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้การกวาดล้างการขายสินค้าผิดกฎหมายดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ตำรวจนครบาลพร้อมดูแลความปลอดภัยและรักษากฎหมายให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมทุกคน