กสทช. สั่งผู้ให้บริการโทรคมนาคมตรวจสอบและระงับการใช้งาน IP Address ของมิจฉาชีพ

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 – สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้สั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมระหว่างประเทศทุกรายตรวจสอบและระงับการใช้งาน IP Address ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของมิจฉาชีพ เพื่อร่วมมือในภารกิจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีความสำคัญในการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของสังคมไทย

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้มีการส่งหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกแห่ง โดยมีการกำหนดขั้นตอนในการตรวจสอบและระงับการใช้งาน IP Address ของมิจฉาชีพที่ใช้สำหรับการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐในการปราบปรามอาชญากรรมในโลกออนไลน์ ดังนี้:

1. การขอข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์: ให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูล IP Address ที่มิจฉาชีพใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Banking รวมถึง IP Address ของเครื่องแม่ข่ายที่ใช้ในการโอนเงิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมได้

2. การส่งข้อมูลจากตำรวจ: กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับ IP Address ที่ถูกใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและระงับการใช้งาน IP Address ที่เกี่ยวข้อง

3. การระงับการใช้งาน IP Address: ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะต้องระงับการใช้งาน IP Address ที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหาย และต้องส่งข้อมูลผู้ใช้งาน IP Address ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง

การตรวจสอบสถานีโทรศัพท์มือถือข้ามแดน

พร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานีโทรศัพท์มือถือที่มีสัญญาณล้ำข้ามแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วจำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ, บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม, ตลาดเบญจวรรณ ต.ป่าไร่ และจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด โดยมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและปรับปรุงเสาสัญญาณเพื่อป้องกันการใช้งานจากแก๊งคอลเซนเตอร์

แม้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้สัญญาณโทรศัพท์ของประชาชนบางรายได้รับผลกระทบ แต่สำนักงาน กสทช. ได้สั่งให้ผู้ให้บริการเร่งติดตั้งสถานีโทรศัพท์ขนาดเล็กเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

นายไตรรัตน์ กล่าวย้ำว่า กสทช. จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด หากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว จะดำเนินการทางปกครองตามอำนาจที่มีต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินงานในครั้งนี้มีความสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นในสังคมดิจิทัล และยืนยันว่าการคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัยของสังคมไทยจะต้องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด