TikTok ยังคงเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนในสหรัฐฯ ท่ามกลางความพยายามในการแบนและข้อเสนอซื้อกิจการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแพลตฟอร์มจะได้รับการขยายระยะเวลาออกไปอีก 75 วันจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับการขายหุ้นบางส่วนให้กับบริษัทในสหรัฐฯ หรือการทำข้อตกลงพิเศษ แต่ทิศทางของ TikTok ในประเทศยังคงไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด โดยมีนักลงทุนหลายกลุ่มให้ความสนใจในการเข้าซื้อกิจการนี้ ซึ่งรวมถึงกลุ่ม The People’s Bid for TikTok ที่นำโดยแฟรงค์ แมคคอร์ท อดีตเจ้าของทีมลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส โดยมุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และแนวทางโอเพนซอร์ส อีกทั้งยังมีการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในแวดวงเทคโนโลยี เช่น อเล็กซิส โอฮาเนียน ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit, เควิน โอเลียรี นักลงทุนชื่อดัง, ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี ผู้คิดค้นเวิลด์ไวด์เว็บ และเดวิด คลาร์ก นักวิทยาศาสตร์จาก MIT ขณะที่กลุ่ม American Investor Consortium ซึ่งนำโดยเจสซี ทินสลีย์ ซีอีโอของ Employer.com ก็ได้ยื่นข้อเสนอซื้อ TikTok มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม เช่น เดวิด บาซัคกิ ซีอีโอของ Roblox, นาธาน แมคคอเลย์ ซีอีโอของ Anchorage Digital และมิสเตอร์บีสต์ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายอื่น ๆ ที่ให้ความสนใจ เช่น บ็อบบี้ โคติก อดีตซีอีโอของ Activision, สตีเวน มนูชิน อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ, Oracle ที่ต้องการเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีคลาวด์, Walmart ที่เล็งขยายตลาดอีคอมเมิร์ซผ่าน TikTok, Microsoft ที่ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา, Rumble แพลตฟอร์มวิดีโอคู่แข่งของ YouTube และ Perplexity AI สตาร์ทอัพด้าน AI ที่ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการนี้

TikTok ซึ่งเป็นแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมของบริษัท ByteDance จากประเทศจีน ตกเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งในสหรัฐฯ มานานถึงสี่ปี เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลผู้ใช้ที่อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลจีน เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม 2020 เมื่อทรัมป์ออกคำสั่งบริหารห้ามทำธุรกรรมกับ ByteDance และพยายามบังคับให้ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทในประเทศ แต่ศาลสหรัฐฯ ได้ระงับคำสั่งดังกล่าว ทำให้ TikTok สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เมื่อรัฐบาลของโจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติ 360-58 ผ่านกฎหมายจำกัด TikTok ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2024 วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติกฎหมายดังกล่าว และไบเดนลงนามบังคับใช้ ส่งผลให้ TikTok ต้องเผชิญกับเงื่อนไขที่ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ หรือถูกแบน

ในเดือนธันวาคม 2024 ทรัมป์ได้เปลี่ยนท่าทีโดยคัดค้านการแบน TikTok และแสดงความตั้งใจที่จะหาทางออกเพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินการในสหรัฐฯ ได้ต่อไป ในเดือนมกราคม 2025 ศาลสูงสหรัฐฯ ได้ยืนยันการบังคับใช้กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act หรือที่เรียกกันว่า "TikTok Ban" ทำให้แอปต้องปิดให้บริการในวันที่ 19 มกราคม อย่างไรก็ตาม TikTok กลับมาออนไลน์อีกครั้งภายใน 12 ชั่วโมง และออกแถลงการณ์ว่าเป็นผลจากความพยายามของทรัมป์ ต่อมาเขาได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่เลื่อนการแบนออกไปอีก 75 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาและหาทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย

ที่มา : techcrunch