Meta เตรียมเปิดตัวแอปแชทบอท AI แยกต่างหาก ท้าชน ChatGPT และ Gemini
วันที่โพสต์: 28 กุมภาพันธ์ 2568 19:41:57 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
Meta กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในสงครามปัญญาประดิษฐ์ ด้วยแผนการเปิดตัวแอปแชทบอท AI แบบแยกต่างหากสำหรับ Meta AI ซึ่งอาจเปิดตัวภายในไตรมาสที่สองของปี 2025 (ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน) นับเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญจากเดิมที่ Meta AI มีให้ใช้งานเฉพาะบนแพลตฟอร์มของบริษัท เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp การแยกแอปออกมาเป็นอิสระถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Meta ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งโดยตรงของ OpenAI ที่มี ChatGPT และ Google ที่มี Gemini
แหล่งข่าวจาก CNBC รายงานว่า Meta มีเป้าหมายที่จะทำให้ Meta AI เป็นมากกว่าฟีเจอร์เสริมในแอปต่างๆ ของบริษัท โดยการเปิดตัวแอปแยกนี้จะทำให้ Meta สามารถพัฒนาและขยายขีดความสามารถของ AI ได้โดยไม่ต้องอิงกับแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน Meta AI ถูกใช้งานในรูปแบบของแชทบอทอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถาม ค้นหาข้อมูล และช่วยสร้างเนื้อหาให้กับผู้ใช้ โดยมีผู้ใช้งานกว่า 700 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มหาศาลเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
นอกเหนือจากการเปิดตัวแอปแยก Meta ยังมีแผนทดสอบระบบสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมสำหรับ Meta AI ซึ่งจะเพิ่มฟีเจอร์พิเศษที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวคาดการณ์ว่าฟีเจอร์พรีเมียมเหล่านี้อาจรวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างเนื้อหาระดับมืออาชีพ และการปรับแต่ง AI ให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทางมากขึ้น รูปแบบการเก็บค่าสมาชิกนี้อาจเป็นแนวทางเดียวกับที่ OpenAI ใช้กับ ChatGPT Plus ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึง GPT-4 ได้อย่างรวดเร็วและมีขีดจำกัดสูงขึ้น
การแข่งขันในตลาด AI กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ OpenAI ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้วยโมเดล GPT-4 ที่ได้รับความนิยมสูง และ Google กำลังผลักดัน Gemini ให้กลายเป็น AI ที่ล้ำสมัยที่สุดด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ Meta จึงต้องพยายามสร้างจุดแข็งที่แตกต่างและน่าสนใจพอที่จะดึงดูดผู้ใช้งานให้เปลี่ยนมาใช้ Meta AI แทน
สิ่งที่อาจทำให้ Meta ได้เปรียบคือการที่บริษัทมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีฐานผู้ใช้มหาศาล หาก Meta AI สามารถผสานรวมการใช้งานกับ Facebook, Instagram และ WhatsApp ได้อย่างราบรื่น และสามารถเสนอฟีเจอร์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น การใช้งานร่วมกับฟีดข่าวหรือระบบโฆษณาอัจฉริยะ Meta อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ OpenAI และ Google อย่างแท้จริง
แม้ว่า Meta AI จะมีจำนวนผู้ใช้ที่สูงอยู่แล้ว แต่การสร้างแอปแยกต่างหากอาจเป็นความท้าทายที่สำคัญ เพราะต้องทำให้ผู้ใช้เกิดความคุ้นเคยและยอมรับในฐานะแอปอิสระ ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์เสริมของแพลตฟอร์มเดิม อีกทั้งการพัฒนาระบบสมัครสมาชิกพรีเมียมก็อาจต้องใช้เวลาในการสร้างมูลค่าที่มากพอให้ผู้ใช้ยอมจ่ายเงิน
สุดท้ายแล้ว อนาคตของ Meta AI ในฐานะคู่แข่งของ ChatGPT และ Gemini จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งในด้านของประสบการณ์ผู้ใช้ ความสามารถของโมเดล AI และกลยุทธ์การตลาดของ Meta เอง หาก Meta สามารถทำให้แอปใหม่นี้มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้กว้างกว่าคู่แข่ง ก็มีโอกาสสูงที่บริษัทจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในสงคราม AI ได้อย่างแท้จริง
การเปิดตัวแอป Meta AI แยกต่างหากจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท และต้องรอติดตามกันต่อไปว่า Meta จะสามารถพลิกโฉมตลาด AI ได้อย่างไร หรือจะเป็นเพียงอีกหนึ่งแอปที่ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงความนิยมจากผู้ใช้ในยุคที่ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว