รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจสอบนอมินี

รัฐบาลไทยกำลังเข้มงวดในการตรวจสอบธุรกิจที่อาจมีการใช้คนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ โดยนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติ

จากผลการตรวจสอบในปี 2567 ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการตรวจสอบนิติบุคคลกว่า 26,019 ราย ครอบคลุมธุรกิจหลักๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและรีสอร์ต รวมถึงธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่ง จากการคัดกรองอย่างละเอียด พบว่ามีเพียง 498 รายที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม โดยในจำนวนนี้ 371 รายได้ถูกยุติเรื่องเนื่องจากไม่พบความเสี่ยง ขณะที่ 64 รายถูกส่งต่อให้กรมสรรพากรดำเนินการเนื่องจากพบความผิดปกติด้านบัญชี

ที่น่าสนใจคือในจำนวนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ 63 ราย พบ 4 รายที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจเข้าข่ายเป็นนอมินี ซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 รัฐบาลได้ตั้งเป้าขยายการตรวจสอบเป็น 26,830 ราย โดยจะครอบคลุมธุรกิจเพิ่มเติม รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์และคลังสินค้า พร้อมทั้งพัฒนาระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคล (IBAS) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับธุรกิจที่มีความเสี่ยง

ทั้งนี้ รัฐบาลเปิดช่องทางให้ประชาชนและผู้ประกอบการ SME ที่พบเห็นหรือได้รับผลกระทบจากการแอบแฝงของธุรกิจต่างชาติ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผ่านสายด่วน 1570 หรือเว็บไซต์ www.dbd.go.th เพื่อร่วมกันป้องกันการแอบแฝงประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย

การดำเนินการอย่างจริงจังนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย และการสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน