รัสเซียถล่มโครงสร้างพลังงานยูเครนครั้งใหญ่ ขีปนาวุธ 120 ลูก-โดรน 90 ลำ สร้างความเสียหายหนัก
วันที่โพสต์: 17 พฤศจิกายน 2567 16:32:07 การดู 12 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่ารัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วประเทศ การโจมตีครั้งนี้ประกอบด้วยขีปนาวุธประมาณ 120 ลูก และโดรนโจมตีถึง 90 ลำ ซึ่งถูกส่งไปยังหลายเมืองใหญ่ของยูเครน ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญ นอกจากนี้เศษซากของอาวุธที่ถูกระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงทำลายยังสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในหลายพื้นที่
ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประชาชนต้องเผชิญกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้นทั่วเมืองในช่วงเช้ามืด โดยรายงานระบุว่านี่เป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน โดยเฉพาะโรงงานผลิตไฟฟ้าและระบบกระจายพลังงาน ถูกระบุว่าเป็นเป้าหมายหลักของรัสเซีย การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยูเครนกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการใช้พลังงานสูงสุด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้าในหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเคียฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหายเพิ่มเติม
ผลกระทบจากการโจมตีทำให้ประชาชนในกรุงเคียฟจำนวนมากต้องหลบภัยในสถานีรถไฟใต้ดินและสถานที่ปลอดภัยใต้ดินอื่น ๆ ภาพผู้คนที่พากันลงไปหลบในสถานีรถไฟใต้ดินสะท้อนถึงความหวาดกลัวและความไม่มั่นคงที่ยังคงอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวยูเครน ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลยูเครนที่จะฟื้นฟูระบบพลังงานและป้องกันการโจมตีในอนาคต
การโจมตีครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะกรุงเคียฟเท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปยังเมืองสำคัญอื่น ๆ ทั่วประเทศ รัฐบาลยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการจัดการผลกระทบและฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐาน ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียยังคงใช้การโจมตีทางอากาศเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างแรงกดดันต่อยูเครน การโจมตีระบบพลังงานในช่วงฤดูหนาวนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน แต่ยังมีนัยสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่มุ่งทำให้ยูเครนประสบกับภาวะขาดแคลนพลังงานอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ยูเครนยังคงต้องรับมือกับความเสียหายสะสมจากการโจมตีครั้งก่อน ๆ การฟื้นฟูระบบพลังงานในสถานการณ์เช่นนี้เป็นภารกิจที่ซับซ้อนและต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล ซึ่งทำให้รัฐบาลยูเครนต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากพันธมิตรระหว่างประเทศมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการโจมตีและฟื้นฟูความเป็นปกติในชีวิตประจำวันของประชาชน