สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567
วันที่โพสต์: 14 พฤศจิกายน 2567 11:32:51 การดู 14 ครั้ง
วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2567) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศที่สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ลึกถึงปอด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในเวลา 07.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ มีค่าระหว่าง 28.1 - 50.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งเกินมาตรฐานคุณภาพอากาศที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ทำให้สถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯ อยู่ในระดับสีส้ม โดยสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป
จากการตรวจวัดในครั้งนี้ พบว่า มีพื้นที่จำนวน 31 จุดที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน โดยในหลายๆ พื้นที่ค่าสูงกว่า 40 มคก./ลบ.ม. ตัวอย่างเช่น เขตหนองแขม ที่สถานีตรวจวัดในบริเวณสามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดถึง 50.7 มคก./ลบ.ม. ซึ่งถือเป็นค่าที่สูงและเกินมาตรฐานมากที่สุดในครั้งนี้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น เขตธนบุรี, เขตบางขุนเทียน, เขตบางบอน, เขตบางรัก, เขตประเวศ, เขตสาทร, เขตบางกอกใหญ่, เขตบางนา, เขตลาดกระบัง และหลายเขตอื่นๆ ก็มีค่าฝุ่นที่สูงกว่า 40 มคก./ลบ.ม. ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระดับที่ควรระมัดระวัง
พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน (ระดับสีส้ม)
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: 50.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์: 45.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน: 44.2 มคก./ลบ.ม.
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา: 44.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: 43.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า: 43.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์: 43.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์: 42.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ: 42.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา: 42.1 มคก./ลบ.ม.
การตรวจวัดในหลายๆ พื้นที่ของกรุงเทพฯ พบว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 มีความหนาแน่นสูงขึ้น เนื่องจากการระบายอากาศในช่วงนี้ยังไม่ดีนัก และในบางพื้นที่ยังคงมีมลพิษจากการจราจรและการปล่อยควันจากยานพาหนะ ซึ่งส่งผลให้ระดับฝุ่นในพื้นที่ต่างๆ สูงขึ้น
คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป
ในขณะนี้ เมื่อมีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป คำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ ให้ประชาชนทั่วไปใช้หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ต้องออกนอกอาคาร เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น การระคายเคืองตา, หายใจลำบาก, ไอ หรือหอบเหนื่อย นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง เช่น การออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ และหากมีอาการไม่สบาย เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา ควรหามุมที่อากาศสะอาดและรีบไปพบแพทย์
คำแนะนำสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด, โรคปอด, โรคหัวใจ, หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และสวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 เมื่อออกจากอาคาร หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก, ไอเรื้อรัง, หรือเจ็บหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
สถานการณ์อากาศในช่วงระหว่างวันที่ 14-22 พฤศจิกายน 2567
จากการพยากรณ์อากาศในช่วงนี้ คาดว่า การระบายอากาศในกรุงเทพฯ จะอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน-ดี" ซึ่งหมายความว่า การกระจายตัวของฝุ่นจะยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ เนื่องจากชั้นบรรยากาศใกล้ผิวดินมีลักษณะปิดและไม่สามารถระบายฝุ่นออกได้ดี แต่คาดว่าในช่วงปลายสัปดาห์จะมีฝนตกในบางพื้นที่ ซึ่งจะช่วยลดความเข้มข้นของฝุ่นละอองในอากาศได้บ้าง นอกจากนี้ ยังมีการพยากรณ์ว่าในตอนเช้าอาจมีหมอกบาง และมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ถึง 30% ของพื้นที่กรุงเทพฯ
การเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ยังเป็นสิ่งสำคัญในช่วงนี้ และการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพจะช่วยลดผลกระทบจากมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ