Samsung อาจต้องใช้ชิป Snapdragon สำหรับ Galaxy S25 แทน Exynos เหตุเพราะปัญหาการผลิตและข้อจำกัดชั่วโมงทำงานในเกาหลีใต้

Samsung ประสบปัญหาในการควบคุมต้นทุนการผลิตโทรศัพท์ Galaxy S25 เนื่องจากชิปประมวลผล Exynos 2500 ที่พัฒนาเองนั้นยังมีอัตราการผลิตที่ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการ ซึ่งทำให้บริษัทอาจจำเป็นต้องใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ของ Qualcomm สำหรับ Galaxy S25 ทั้งหมดแทน ทั้งนี้ โปรเซสเซอร์ Exynos 2500 มีต้นทุนต่อหน่วยประมาณ 5,400 บาท ซึ่งถูกกว่าชิป Snapdragon 8 Elite ที่ราคาประมาณ 9,000 บาทมาก อย่างไรก็ตาม โรงงานผลิตของ Samsung มีพนักงานน้อยกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง TSMC ถึง 10 เท่า ส่งผลให้กระบวนการผลิตชิป Exynos มีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพ

ปัญหาหลักมาจากการที่รัฐบาลเกาหลีกำหนดเวลาทำงานสูงสุดเพียง 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตชิป Exynos โดยวิศวกรอาวุโสของ Samsung เปิดเผยว่า ข้อจำกัดนี้ทำให้ทีมงานบางครั้งต้องหยุดงานและกลับบ้าน แม้ว่าจะใกล้ถึงกำหนดส่งโครงการแล้วก็ตาม ซึ่งพนักงานบางคนจึงต้องทำงานนอกเวลาโดยไม่ได้รับการบันทึกเวลางานพิเศษ เพื่อให้โครงการเสร็จทันกำหนด

กฎหมายแรงงานในเกาหลีใต้อนุญาตให้ทำงานมาตรฐาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และทำงานล่วงเวลาได้อีก 12 ชั่วโมง แต่ในอดีตเคยอนุญาตให้ทำงานได้ถึง 68 ชั่วโมงใน 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้หลายบริษัทรวมถึง Samsung ยังคงคุ้นเคยกับการทำงานชั่วโมงสูงเพื่อให้โครงการเสร็จทันเวลา ในขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น SK Hynix ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาทำงานสั้นเกินไปเหมือน Samsung

แม้ว่าการออกแบบชิป Exynos 2500 จะเสร็จสมบูรณ์แล้วและผ่านการทดสอบบน Galaxy S25 แต่โรงงานผลิตของ Samsung ยังคงมีอัตราการผลิตที่ได้คุณภาพเพียง 30% ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอสำหรับความต้องการจำนวนมากของ Galaxy S25 ที่คาดว่าจะขายได้หลายล้านเครื่อง ข้อจำกัดการผลิตนี้ทำให้ Samsung ต้องพิจารณาใช้ชิป Snapdragon แทน