ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งส่งผลกระทบ ตลาดหุ้นไทยหลายมิติ
วันที่โพสต์: 6 พฤศจิกายน 2567 17:12:08 การดู 5 ครั้ง
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ หลังคะแนนทรัมป์นำ คาดกระทบตลาดหุ้นไทยหลายมิติ
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป โดยเฉพาะหลังจากที่ผลสำรวจล่าสุดในปลายเดือนตุลาคม 2567 พบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนำนางคามาลา แฮร์ริส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร
ความเคลื่อนไหวในตลาดการเงิน
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวสูงขึ้น
- เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากตลาดเอเชียเกือบทั้งหมด ยกเว้นฟิลิปปินส์และไต้หวัน
- นักลงทุนเริ่มโยกย้ายเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยในสหรัฐฯ มากขึ้น
ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
1. ด้านการค้าระหว่างประเทศ
- อาจเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน
- นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60% ขณะที่ประเทศอื่นเก็บ 10%
- คาดการณ์การย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค
2. ด้านการเงินและการลงทุน
- เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย
- เงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
- อาจเห็นการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติจากตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่อง
3. ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
- คาดการณ์การปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนครั้งใหญ่
- ภาคธุรกิจไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
- โอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
จุดแข็งของตลาดหุ้นไทย
1. กลุ่มสุขภาพ (Health) ยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี
2. กลุ่มความยั่งยืน (Sustainability) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ
3. โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการย้ายฐานการผลิต
มุมมองระยะสั้น-กลาง
- ตลาดอาจผันผวนในระยะสั้นจนกว่าผลการเลือกตั้งจะชัดเจน
- คาดว่าวอลุ่มการซื้อขายจะกลับมาคึกคักหลังทราบผลการเลือกตั้งที่แน่นอน
- นักลงทุนอาจเริ่มกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
- ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุน
ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุน
1. ติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งสหรัฐอย่างใกล้ชิด
2. เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนในระยะสั้น
3. พิจารณาการลงทุนในกลุ่มที่มีจุดแข็งของตลาดไทย
4. ศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุนของตนเอง
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนไทยและผลประโยชน์ของนักลงทุนทุกกลุ่ม