ครม.เร่งดันมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มุ่งฟื้นฟูชีวิตเกษตรกรและเพิ่มศักยภาพการผลิต
วันที่โพสต์: 5 พฤศจิกายน 2567 19:42:46 การดู 8 ครั้ง
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแผนงานเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ โดยจัดสรรงบกลางปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงินรวมกว่า 2,553 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนโครงการฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เกษตรกรกลับมาทำการผลิตได้เร็วที่สุดและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ แถลงว่า มาตรการช่วยเหลือนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยแบ่งเป็นแผนดำเนินการหลัก 3 ส่วน ได้แก่ การฟื้นฟูสภาพพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหาย การสนับสนุนปัจจัยการผลิต และการเสริมสร้างความรู้และเทคนิคด้านการเกษตรเพื่อเพิ่มความทนทานของการผลิตในอนาคต
การฟื้นฟูพื้นที่และปัจจัยการผลิต
ในส่วนของการฟื้นฟูพื้นที่เกษตร ครม.ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการเตรียมพื้นที่เพื่อให้พร้อมสำหรับการเพาะปลูกใหม่ โดยการล้างดินเค็มและกำจัดตะกอนที่สะสมจากน้ำท่วม ตลอดจนการฟื้นฟูแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่การเกษตร ส่วนในด้านการสนับสนุนปัจจัยการผลิตนั้น ได้มีการจัดสรรเงินสำหรับการจัดหาพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ รวมถึงการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยอินทรีย์แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบการผลิตให้กลับมาสู่ภาวะปกติ
เสริมทักษะและการจัดการการผลิต
นอกจากนี้ ครม.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการอบรมเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความรู้ด้านการฟื้นฟูดิน เทคนิคการเพาะปลูกที่ประหยัดน้ำ และการจัดการฟาร์มเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติในอนาคต โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับศูนย์วิจัยด้านการเกษตรในท้องถิ่น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละภูมิภาค
ผลกระทบในระยะยาวและแนวทางความยั่งยืน
คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นว่า ความช่วยเหลือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบการผลิตทางการเกษตร โดยการเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเพื่อให้เกษตรกรสามารถกลับมาประกอบอาชีพและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการสนับสนุนและดำเนินการตามมาตรการนี้ คาดว่าเกษตรกรจะสามารถกลับมาทำการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่ชนบทฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพและมีผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ