ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง OPEC+ ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต
วันที่โพสต์: 5 พฤศจิกายน 2567 10:17:13 การดู 8 ครั้ง
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 — ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากกลุ่ม OPEC+ ได้ประกาศขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนแอในตลาดโลก
ตามข้อมูลจากหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 71.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.98 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 75.08 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งก็เพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน
อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC+ ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ในปีหน้าจะต้องจับตาการประชุมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 อย่างใกล้ชิด โดยตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลง 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมในวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยมีความหวังว่าจีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ส่วนในรายงานจาก Baker Hughes ได้มีการรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ปรับลดลง 1 แท่น เหลือเพียง 479 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 1 แท่น สู่ระดับ 102 แท่น
สำหรับราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคาน้ำมันเบนซินได้ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากสต๊อกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ 11.7 ล้านบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดีเซลมีการปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์การลดการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อตลาดน้ำมันดีเซลในภูมิภาคนี้ในช่วงเวลาถัดไป