เหตุการณ์ภูเขาไฟเลโวโทบี ลากี-ลากี ปะทุในเกาะฟลอเรส ประเทศอินโดนีเซีย

เกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าขึ้นในเกาะฟลอเรส ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อภูเขาไฟเลโวโทบี ลากี-ลากี ในจังหวัดนูซาเต็งการาตะวันออก ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเช้ามืดของวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อหลบภัย

การปะทุของภูเขาไฟนี้เริ่มมีสัญญาณตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม จนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน ทำให้ทางการอินโดนีเซียต้องยกระดับสถานะการเตือนภัยขั้นสูงสุด และออกคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ภูเขาไฟภายในรัศมี 7 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาจากหมู่บ้านกลาตันโล ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้าน 6 แห่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่หินขนาดใหญ่และลาวาที่ร้อนแรงพุ่งเข้าทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน

ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายและจำนวนผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังคงมุ่งเน้นการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคารที่พังทลายลง ขอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ เพื่อฟื้นฟูและบรรเทาความเสียหาย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์อันน่าทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในเกาะฟลอเรส ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อภูเขาไฟเลโวโทบี ลากี-ลากี ในจังหวัดนูซาเต็งการาตะวันออก ได้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเช้ามืดของวันนี้

ตามข้อมูล เหตุการณ์ปะทุของภูเขาไฟเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย และทำให้ประชาชนหลายพันคนในพื้นที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อหลบภัย โดยการปะทุของภูเขาไฟนี้เริ่มมีสัญญาณตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม จนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน

ทางการอินโดนีเซียได้ยกระดับสถานะการเตือนภัยขั้นสูงสุด และออกคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ภูเขาไฟภายในรัศมี 7 กิโลเมตร เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาจากหมู่บ้านกลาตันโล ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้าน 6 แห่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่หินขนาดใหญ่และลาวาที่ร้อนแรงพุ่งเข้าทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน

ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายและจำนวนผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังคงมุ่งเน้นการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคารที่พังทลายลง

ขอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ เพื่อฟื้นฟูและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น ในขณะที่ทางการยังคงเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นมากขึ้น