iQOO เปิดตัว iQOO 13 สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังและน่าจับตามองในตลาดจีน

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท iQOO ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iQOO 13 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยยกระดับมาตรฐานสมาร์ทโฟนให้สูงขึ้นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างเต็มที่

หน้าจอที่เหนือชั้น

iQOO 13 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.82 นิ้ว ซึ่งเป็นแผง LTPO AMOLED ที่มีความละเอียด 2K (3168 x 1440 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz ทำให้การแสดงผลมีความลื่นไหลและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความสว่างสูงสุดที่ 4500 nits และการแสดงผลสีถึง 1.07 พันล้านสีช่วยให้ภาพที่แสดงมีความคมชัดและสีสันที่สดใส โดยเฉพาะเมื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างมาก นอกจากนี้ เทคโนโลยีหรี่แสงที่ทำงานด้วยความถี่ 2592Hz ยังช่วยลดการกระพริบของแสง เพื่อถนอมสายตาผู้ใช้งานในระยะยาว

ประสิทธิภาพที่ล้ำหน้า

iQOO 13 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย Qualcomm เพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป ชิปเซ็ตนี้สามารถทำคะแนนได้ถึง 3.15 ล้านใน AnTuTu ทำให้สามารถรันเกมที่มีกราฟิกหนักได้อย่างไม่มีสะดุด เช่น Naraka: Bladepoint ที่ 60fps และ Dark Zone Breakout ที่ 90fps ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยี ray tracing

เพื่อเสริมความสามารถในการแสดงผลให้ดียิ่งขึ้น ชิปเซ็ต Q2 ที่พัฒนาขึ้นเองของ iQOO ยังมอบความละเอียดซูเปอร์เท็กซ์เจอร์ระดับ 2K ที่มีประสิทธิภาพการลดการกระพริบภาพ พร้อมรองรับการรีเฟรชเรท 144FPS ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริง

กล้องที่มีความสามารถหลากหลาย

iQOO 13 ถูกติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.49 นิ้ว พร้อมการรองรับระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ กล้อง Ultra-Wide 50MP และกล้อง Telephoto ซูม 3 เท่า 50MP ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมอง และไฟวงแหวนรอบโมดูลกล้องที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามบรรยากาศ เพิ่มความน่าสนใจในการถ่ายภาพ

แบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็ว

iQOO 13 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 6150mAh ชนิดซิลิคอนคาร์บอนรุ่นที่ 3 ซึ่งรองรับการชาร์จเร็ว 120W ช่วยให้สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จ UFCS 44W และ PPS 100W ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดในระหว่างการใช้งาน

ดีไซน์ทันสมัยและทนทาน

iQOO 13 ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมเกรดการบิน ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 207-213 กรัม และมีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนยังมีมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP68+IP69 ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความทนทานในทุกสภาพแวดล้อม

ฟีเจอร์และการเชื่อมต่อที่ครบครัน

iQOO 13 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย OriginOS 5.0 ในเวอร์ชั่นจีน และ Funtouch OS 15 ในเวอร์ชั่นทั่วโลก รองรับ Dual SIM (nano + nano) และเทคโนโลยีเครือข่าย 5G SA/NSA ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi 7 802.11 be, Bluetooth 5.4, GPS หลายระบบ และ USB Type-C 3.2 Gen1

ราคาและการวางจำหน่าย

iQOO 13 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี Legend, สี Track, สี Nado Grey และสี Green โดยวางจำหน่ายในประเทศจีนในราคาดังนี้

• ความจุ 12GB + 256GB ราคา 3999 หยวน (ประมาณ 18,900 บาท)
• ความจุ 16GB + 256GB ราคา 4299 หยวน (ประมาณ 20,300 บาท)
• ความจุ 12GB + 512GB ราคา 4499 หยวน (ประมาณ 21,300 บาท)
• ความจุ 16GB + 512GB ราคา 4699 หยวน (ประมาณ 22,200 บาท)
• ความจุ 16GB + 1TB ราคา 5199 หยวน (ประมาณ 24,600 บาท)

ด้วยสเปคที่ทรงพลังและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ iQOO 13 จึงถือเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองในตลาด และเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การถ่ายภาพ หรือการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน