รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้อนรับเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้การต้อนรับ นาย Evgeny Tomikhin (เยฟเกนี โตมีฮิน) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวและแสดงความยินดีในโอกาสที่นายโตมีฮินได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต

ในโอกาสนี้ นายภูมิธรรมได้กล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น และยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยและรัสเซียว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาความร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและรัสเซียได้ถูกสร้างขึ้นมานานกว่า 127 ปี ซึ่งเริ่มต้นจากการเสด็จประพาสรัสเซียของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้สร้างฐานที่มั่นคงในการร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการทหารที่มีความพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรม การส่งกำลังบำรุง และความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังกล่าวชื่นชมการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศที่จัดขึ้นในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยเฉพาะในปี 2567 ที่มีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากรัสเซียให้เข้ามาเยือนประเทศไทย

ในด้านการทหาร รัฐมนตรีได้พูดถึงความสำเร็จของการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหารระหว่างไทยและรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2559 ว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการขยายความร่วมมือที่มีความหลากหลายและตอบสนองต่อสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้บริหารระดับสูงของกองทัพไทยและรัสเซีย ที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สุดท้าย นายภูมิธรรมยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของทั้งสองประเทศให้สามารถร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

การพบปะในครั้งนี้จึงไม่เพียงแค่เป็นการแนะนำตัวของเอกอัครราชทูตใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและรัสเซียให้ก้าวหน้าไปในทิศทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อกันอย่างยั่งยืนในอนาคต